เซ็นชื่อแทนกันได้หรือไม่อย่างไร ภริยาลงชื่อแทนสามี

6597 จำนวนผู้เข้าชม  | 

เซ็นชื่อแทนกันได้หรือไม่อย่างไร ภริยาลงชื่อแทนสามี

ภริยามีสิทธิ “เซ็นชื่อแทนสามี” ได้หรือไม่?
ในชีวิตคู่ หลายครั้งภริยาหรือสามีมักช่วยกันดำเนินการเรื่องทรัพย์สิน เช่น ซื้อขายที่ดิน ทำสัญญากู้ หรือทำเอกสารราชการต่าง ๆ
คำถามที่มักเกิดขึ้นคือ — “ภริยาสามารถเซ็นชื่อแทนสามีได้หรือไม่?”
แม้จะอยู่กินกันฉันสามีภริยา และสามีอนุญาตด้วยวาจาแล้วก็ตาม

เรื่องนี้ศาลฎีกาเคยวินิจฉัยไว้ชัดเจนว่า “ลายมือชื่อของบุคคลใด จะให้ผู้อื่นลงแทนไม่ได้ แม้จะได้รับมอบอำนาจก็ตาม”


หลักกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 264
ว่าด้วยความผิดฐาน “ปลอมเอกสาร”

ผู้ใดทำเอกสารปลอม หรือใช้เอกสารปลอม
ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 797
ว่าด้วยอำนาจของคู่สมรสในการจัดการสินสมรส
แต่การลงนามในเอกสารสัญญา ยังต้องเป็นลายมือชื่อของผู้เป็นเจ้าของทรัพย์สินโดยตรง
กล่าวโดยสรุปคือ —
“การเซ็นชื่อแทนกัน แม้ได้รับอนุญาต ก็ถือว่าเป็นการปลอมเอกสาร”
แต่จะ “ผิดอาญาหรือไม่” ต้องพิจารณาองค์ประกอบความผิดอีกชั้นหนึ่ง


คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1020/2517
“ลายมือชื่อนั้นไม่มีกฎหมายให้เซ็นแทนกันได้ แม้จะมอบอำนาจก็เซ็นแทนไม่ได้
จำเลย (ภริยา) เซ็นชื่อสามีลงในสัญญามัดจำซื้อขายที่ดิน ถือเป็นการลงลายมือชื่อปลอม
แต่เมื่อผู้เสียหายรู้จักจำเลยและสามีอยู่ก่อนแล้ว และสมัครใจทำสัญญาโดยทราบข้อเท็จจริง
จึงไม่อยู่ในฐานะจะอ้างว่าได้รับความเสียหาย และสามีก็ไม่เสียหายเพราะมอบอำนาจไว้แล้ว
จำเลยจึงไม่มีความผิด”
ใจความสำคัญ:
แม้เป็น “ลายมือชื่อปลอม” แต่หากไม่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่บุคคลอื่นหรือประชาชน
การกระทำนั้น “ไม่ครบองค์ประกอบความผิดฐานปลอมเอกสาร”
จึง “ไม่มีความผิดอาญา”


 ฎีกาเปรียบเทียบ
ฎีกาที่ 1526/2525
ภริยาเซ็นชื่อแทนสามีในหนังสือสัญญาขายรถยนต์ —
ศาลวินิจฉัยว่าเป็น “ลายมือชื่อปลอม” แต่ไม่ผิดอาญา เพราะไม่มีการหลอกลวงหรือเสียหาย
ฎีกาที่ 5232/2530
การลงลายมือชื่อแทนกันโดยเจ้าของทรัพย์รู้เห็นและยินยอม —
แม้ถือเป็นปลอมเอกสาร แต่ไม่ครบองค์ประกอบความผิด เพราะไม่มีผู้เสียหาย

ข้อสังเกตสำคัญสำหรับการปฏิบัติจริง
การ “เซ็นแทน” ผู้อื่น ถือว่าเป็นการปลอมเอกสาร เสมอ ไม่ว่าด้วยเหตุจำเป็นหรือได้รับอนุญาต
แต่ถ้าพิสูจน์ได้ว่า

ผู้ถูกเซ็นแทน “รู้เห็นและยินยอม”
หรือไม่มีผู้เสียหายหลงเชื่อ
ย่อม “ไม่เป็นความผิดอาญา” เพราะขาดองค์ประกอบ “ความเสียหาย”
หากต้องการดำเนินการแทนกัน ควรทำหนังสือมอบอำนาจอย่างถูกต้อง
และให้ผู้รับมอบลงชื่อ “ของตนเอง” ในช่อง “ผู้รับมอบอำนาจ” เท่านั้น

บทสรุป
“สามีภริยาอาจช่วยกันจัดการทรัพย์สินได้ แต่กฎหมายยังคงหวงแหน ‘ลายมือชื่อของบุคคล’ ว่าเป็นเรื่องเฉพาะตัวที่แทนกันไม่ได้”
ดังนั้น หากจำเป็นต้องทำธุรกรรมแทนกัน — ควรใช้วิธีมอบอำนาจอย่างถูกต้อง
อย่าเซ็นชื่อแทนกันโดยพลการ เพราะแม้ไม่มีเจตนาทุจริต ก็อาจถูกมองว่า “ปลอมเอกสาร” ได้

ตรินัยน์  โชติเศรษฐ์ภาคิน  ( นบ. น.บ.ท.)

ทนายความเพชรบูรณ์ อ.วิเชียรบุรี

Powered by MakeWebEasy.com