บัตรเครดิต, สินเชื่อ, กู้ยืม ขอจัดการมรดกและเช่าซื้อรถยนต์

1. หนี้บัตรเครดิต: ทางออกเมื่อชำระไม่ไหว
ปัญหานี้เป็นหนึ่งในคดีที่ขึ้นสู่ศาลมากที่สุด แต่ข่าวดีคือหนี้บัตรเครดิตถือเป็นคดีแพ่ง ซึ่งหมายความว่าคุณจะไม่ติดคุก เมื่อถูกฟ้องร้องจากเจ้าหนี้ สิ่งแรกที่คุณควรทำคือปรึกษาทนายความเพื่อหาทางออกที่เหมาะสม หากคดีนี้ขาดอายุความ 2 ปี คุณสามารถใช้ประเด็นนี้ต่อสู้คดีได้ นอกจากนี้ ศาลจะพิจารณาความเป็นธรรมของอัตราดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียมให้คุณอีกด้วย หากคุณไม่มีทรัพย์สินอื่นนอกจากเงินเดือน การบังคับคดีจะทำได้โดยการอายัดเงินเดือนไม่เกิน 30% และเฉพาะผู้ที่มีเงินเดือนตั้งแต่ 20,000 บาทขึ้นไปเท่านั้น อย่าหลีกเลี่ยงหมายศาลหรือเพิกเฉย เพราะการเข้าสู่กระบวนการจะช่วยให้คุณได้รับความเป็นธรรมและหาทางไกล่เกลี่ยได้   

2. หนี้กู้ยืมและสินเชื่อส่วนบุคคล: จัดการก่อนสายเกินไป 
คดีกู้ยืมและสินเชื่อส่วนบุคคลเป็นอีกประเภทที่พบบ่อยและสร้างความเดือดร้อนในวงกว้าง โดยมีอายุความอยู่ที่ 10 ปีสำหรับหนี้กู้ยืมทั่วไป และ 5 ปีสำหรับสินเชื่อส่วนบุคคล หากไม่สามารถชำระหนี้ได้ตามกำหนด ทางออกที่ดีที่สุดคือการพูดคุยกับเจ้าหนี้เพื่อเจรจาปรับโครงสร้างหนี้ โดยอาจขอผ่อนชำระให้น้อยลง หรือขยายระยะเวลาการผ่อนชำระ หากคุณไม่มีหลักประกันในการกู้ยืม เจ้าหนี้สามารถฟ้องร้องเพื่อบังคับคดีและอายัดทรัพย์สิน รวมถึงเงินเดือนของคุณได้ อย่างไรก็ตาม พ.ร.บ.ทวงถามหนี้มีไว้เพื่อคุ้มครองลูกหนี้จากการถูกข่มขู่หรือประจาน การเผชิญหน้ากับปัญหาและขอคำปรึกษาทางกฎหมายจึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้คุณผ่านพ้นวิกฤตนี้ไปได้  

 
 

3. การขอจัดการมรดก: เมื่อไร้พินัยกรรม
เมื่อเจ้ามรดกเสียชีวิตโดยไม่ได้ทำพินัยกรรมไว้ ทายาทโดยธรรม เช่น บุตร บิดามารดา หรือพี่น้อง มีสิทธิยื่นคำร้องต่อศาลเพื่อขอตั้งผู้จัดการมรดกได้ ผู้จัดการมรดกมีหน้าที่รวบรวมทรัพย์สินและชำระหนี้สินของผู้ตายให้เสร็จสิ้น ก่อนจะแบ่งทรัพย์สินตามส่วนที่ทายาทแต่ละคนควรได้รับ หากไม่มีผู้คัดค้าน ทายาทสามารถยื่นคำร้องได้ด้วยตนเองที่สำนักงานอัยการสูงสุด เพื่อลดค่าใช้จ่ายในการจ้างทนายความ อย่างไรก็ตาม หากมีข้อพิพาทเกิดขึ้น เช่น มีการคัดค้านการตั้งผู้จัดการมรดก หรือมีทายาทที่ไม่ยอมรับการแบ่งทรัพย์ จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องปรึกษาทนายความเพื่อฟ้องร้องขอแบ่งมรดก ซึ่งทนายจะช่วยยืนยันสิทธิและระบุทรัพย์สินที่ควรแบ่งให้ชัดเจน   

4. เช่าซื้อรถยนต์: ทางออกเมื่อผ่อนไม่ไหว
หากคุณผ่อนรถไม่ไหว สามารถเจรจาคืนรถให้กับบริษัทไฟแนนซ์ได้ แต่การคืนรถนี้ไม่ได้หมายความว่าคุณจะหมดภาระหนี้ทันที กรณีค้างชำระเกิน 3 เดือน ไฟแนนซ์มีสิทธิ์บอกเลิกสัญญาและยึดรถคืนได้ตามกฎหมาย หากไฟแนนซ์นำรถไปขายทอดตลาดแล้วได้ราคาต่ำกว่ายอดหนี้ที่เหลืออยู่ คุณอาจต้องรับผิดชอบในส่วนต่างที่เกิดขึ้น อย่างไรก็ตาม หากคุณมีประวัติการผ่อนชำระที่ดีก่อนตัดสินใจคืนรถ คุณอาจไม่จำเป็นต้องจ่ายส่วนต่างนี้ หากถูกทวงหนี้เกินกว่าเหตุ การข่มขู่ หรือการยึดรถก่อนกำหนด คุณสามารถขอความช่วยเหลือจากกรมบังคับคดี หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ การเจรจาเป็นทางออกที่ดีที่สุดเพื่อหาข้อยุติที่เป็นธรรมกับทุกฝ่าย