169 จำนวนผู้เข้าชม |
สรุปความผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2560 ตัวอย่างและบทลงโทษ
ในยุคดิจิทัลที่ทุกคนใช้โซเชียลมีเดียและอินเทอร์เน็ตในชีวิตประจำวัน การโพสต์ แสดงความคิดเห็น หรือแชร์ข้อมูลอาจดูเหมือนเรื่องเล็กน้อย แต่หากไม่ระวังก็อาจเข้าข่ายความผิดตาม พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2560 ได้ กฎหมายฉบับนี้ถูกออกมาเพื่อควบคุมการใช้งานคอมพิวเตอร์และอินเทอร์เน็ตให้เป็นไปอย่างปลอดภัยและเป็นธรรม พร้อมทั้งป้องกันไม่ให้มีผู้ใช้เทคโนโลยีไปสร้างความเสียหายแก่ผู้อื่น
1. พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ 2560 คืออะไร
พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ 2560 เป็นกฎหมายที่ใช้ควบคุมและกำหนดความผิดที่เกี่ยวข้องกับคอมพิวเตอร์ อินเทอร์เน็ต เครือข่าย และข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ กฎหมายนี้ถูกแก้ไขเพิ่มเติมจากฉบับเดิม พ.ศ. 2550 เพื่อให้ทันต่อเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว จุดประสงค์หลักคือ
ป้องกันการโจมตีระบบคอมพิวเตอร์ (เช่น แฮกเกอร์ มัลแวร์)
คุ้มครองสิทธิส่วนบุคคลจากการถูกละเมิดข้อมูล
ป้องกันการเผยแพร่ข้อมูลที่ไม่เหมาะสม เช่น ข่าวปลอม ข้อมูลเท็จ ภาพลามก
สร้างมาตรการลงโทษผู้กระทำผิดให้เกิดความเกรงกลัว
2. การกระทำที่เข้าข่ายความผิด
ตามกฎหมายนี้ มีกำหนดการกระทำหลายรูปแบบที่ถือว่าผิด เช่น
เข้าถึงระบบหรือข้อมูลโดยมิชอบ: การแอบเข้าไปในอีเมล ระบบของบริษัท หรือฐานข้อมูลของผู้อื่นโดยไม่ได้รับอนุญาต
ดัดแปลง ทำลาย แก้ไขข้อมูลคอมพิวเตอร์: เช่น ลบไฟล์ข้อมูล ทำให้ข้อมูลเสียหาย หรือเปลี่ยนแปลงข้อมูลในระบบเพื่อให้เกิดความเสียหาย
นำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จ: เช่น การโพสต์ข่าวปลอมที่อาจทำให้ประชาชนตื่นตระหนก หรือทำให้ผู้อื่นเสียชื่อเสียง
เผยแพร่ข้อมูลลามกอนาจาร: การอัปโหลดคลิป ภาพ หรือสื่อที่เข้าข่ายลามก โดยเฉพาะหากเข้าถึงได้โดยทั่วไป
ข้อมูลที่กระทบต่อความมั่นคงของประเทศ: เช่น การโพสต์ข้อมูลที่เป็นภัยต่อความมั่นคง การก่อการร้าย หรือการหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ
3. ตัวอย่างความผิดที่พบบ่อย
เพื่อให้เข้าใจง่าย ลองมาดูตัวอย่างการกระทำที่ประชาชนอาจเผลอทำโดยไม่รู้ตัว
แชร์ข่าวปลอม: เช่น แชร์ข้อความที่บอกว่า “ธนาคารจะปิดทุกสาขาทั่วประเทศ” ทั้งที่ไม่เป็นความจริง ถือว่าการนำเข้าข้อมูลเท็จเข้าระบบคอมพิวเตอร์
แฮกข้อมูลส่วนบุคคล: เช่น การเจาะรหัสผ่านอีเมลหรือโซเชียลมีเดียของผู้อื่น
ปล่อยไวรัสหรือมัลแวร์: การสร้างโปรแกรมที่ทำให้คอมพิวเตอร์ของผู้อื่นเสียหายแล้วส่งต่อไปในระบบ
โพสต์หมิ่นประมาทบนอินเทอร์เน็ต: การเขียนข้อความใส่ร้ายป้ายสีผู้อื่นบนเฟซบุ๊กหรือแพลตฟอร์มออนไลน์ต่าง ๆ
4. บทลงโทษตามกฎหมาย
บทลงโทษตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ มีทั้งโทษปรับและโทษจำคุก โดยขึ้นอยู่กับลักษณะการกระทำผิด เช่น
การเข้าถึงระบบคอมพิวเตอร์ของผู้อื่นโดยมิชอบ: จำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
แก้ไข ดัดแปลงข้อมูลของผู้อื่น: จำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
นำเข้าข้อมูลเท็จเข้าระบบ: จำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท
นำเข้าข้อมูลลามกอนาจาร: หากเข้าถึงได้โดยทั่วไป จำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท
ข้อมูลที่กระทบต่อความมั่นคง: มีโทษร้ายแรงขึ้น อาจจำคุกตั้งแต่ 3 ปี ถึง 15 ปี หรือทั้งจำทั้งปรับ
บทลงโทษเหล่านี้สะท้อนให้เห็นว่า กฎหมายต้องการป้องกันไม่ให้ผู้คนใช้อินเทอร์เน็ตไปในทางที่สร้างความเสียหายต่อสังคม
5. ข้อควรระวังและคำแนะนำในการใช้อินเทอร์เน็ต
เพื่อหลีกเลี่ยงการทำผิดโดยไม่ตั้งใจ ประชาชนควรปฏิบัติดังนี้
ตรวจสอบข้อมูลก่อนแชร์: อย่าเชื่อทุกอย่างที่เห็นบนโซเชียล ควรตรวจสอบจากแหล่งข่าวที่เชื่อถือได้
ใช้รหัสผ่านที่ปลอดภัย: เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้อื่นเข้ามาเจาะระบบ
ไม่โพสต์ข้อความหมิ่นประมาท: แม้จะโกรธหรือมีปัญหากับใครก็ตาม
เคารพสิทธิผู้อื่น: ไม่ละเมิดความเป็นส่วนตัว เช่น การนำรูปหรือข้อมูลส่วนบุคคลไปเผยแพร่โดยไม่ได้รับอนุญาต
ตระหนักถึงผลทางกฎหมาย: การใช้อินเทอร์เน็ตทุกครั้งควรรู้ว่ามีกฎหมายคุ้มครองและลงโทษอยู่เบื้องหลัง
สรุป
พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ 2560 เป็นกฎหมายที่มีผลบังคับใช้อย่างกว้างขวาง ครอบคลุมตั้งแต่การแฮกข้อมูล การโพสต์ข้อความ ไปจนถึงการแชร์ข่าวปลอม ความผิดบางอย่างอาจเกิดขึ้นโดยไม่รู้ตัว แต่โทษที่กำหนดไว้ค่อนข้างรุนแรง ดังนั้นผู้ใช้อินเทอร์เน็ตทุกคนควรมีความรู้ ความเข้าใจ และใช้สื่อออนไลน์อย่างมีสติ เพื่อปกป้องสิทธิของตนเองและเคารพสิทธิของผู้อื่น
ทนายตรินัยน์ นบ, นบท. (ปรึกษา โทร. 0635955444)