ดูแลพ่อแม่ยามป่วยแต่ติดปัญหาทรัพย์สิน จะขายหรือโอนก็ทำไม่ได้ ต้องแก้ด้วยผู้อนุบาล

บทความกฎหมาย: “เมื่อพ่อแม่ป่วยติดเตียง ทำไมต้องตั้งผู้อนุบาลก่อนจัดการทรัพย์สิน”
1. บทนำ
เมื่อคนที่เรารักล้มป่วยจนไม่สามารถดูแลตนเองได้ เช่น กรณีคุณแม่เส้นเลือดในสมองแตก ต้องนอนติดเตียง ครอบครัวมักเจอปัญหาเรื่องค่าใช้จ่ายในการรักษาและดูแล แม้จะมีทรัพย์สินอยู่ในชื่อของผู้ป่วย แต่กลับไม่สามารถนำมาใช้ได้ง่ายๆ เพราะติดข้อกฎหมาย หากลูกๆ ต้องการจัดการทรัพย์สินแทน จึงจำเป็นต้องยื่นต่อศาลเพื่อขอเป็น “ผู้อนุบาล”


2. ข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 28 – 32 : กำหนดให้บุคคลที่ไม่สามารถจัดการตนเองได้เพราะเหตุวิกลจริต ทุพพลภาพ หรือเจ็บป่วย สามารถถูกศาลสั่งตั้งผู้อนุบาลเพื่อช่วยเหลือได้
เมื่อศาลมีคำสั่งตั้งผู้อนุบาลแล้ว บุคคลดังกล่าวจะมี “ผู้แทนโดยชอบธรรม” ในการจัดการทรัพย์สินแทน
การโอน ขาย ฝาก หรือจัดการทรัพย์สินใดๆ จึงต้องทำผ่านผู้อนุบาลที่ศาลแต่งตั้ง ไม่เช่นนั้นธุรกรรมจะไม่สมบูรณ์ทางกฎหมาย

3. ขั้นตอนการยื่นคำร้อง
ยื่นคำร้องต่อศาล โดยลูกหรือญาติใกล้ชิด พร้อมระบุเหตุผลว่าผู้ป่วยไม่สามารถดูแลตนเองได้
แนบหลักฐาน เช่น ใบรับรองแพทย์, สำเนาบัตรประชาชน/ทะเบียนบ้าน, เอกสารแสดงสิทธิในทรัพย์สิน
ศาลนัดไต่สวน ฟังความเห็นของญาติพี่น้องและพยาน
ศาลมีคำสั่งตั้งผู้อนุบาล เมื่อเห็นว่ามีเหตุจำเป็นและผู้ร้องมีความเหมาะสม

4. ประโยชน์ของการมีผู้อนุบาล
สามารถ จัดการทรัพย์สินแทนผู้ป่วยได้ถูกต้องตามกฎหมาย
นำทรัพย์สินมาใช้เป็น ค่าใช้จ่ายในการรักษาและดูแล โดยไม่ติดปัญหาทางกฎหมาย
ลดความขัดแย้งระหว่างพี่น้อง เพราะศาลกำหนดผู้มีสิทธิชัดเจน
สร้างความมั่นใจให้บุคคลภายนอก เช่น ธนาคาร ที่ดิน หรือหน่วยงานราชการ ในการทำธุรกรรม

5. บทสรุป
แม้ลูกทุกคนจะมีความตั้งใจดีในการดูแลพ่อแม่ แต่หากไม่มีฐานะผู้อนุบาลที่ถูกต้องตามกฎหมาย อาจทำให้การจัดการทรัพย์สินติดขัดหรือเป็นโมฆะได้ การยื่นศาลขอเป็นผู้อนุบาลจึงเป็นทางออกที่มั่นคง ถูกต้อง และช่วยให้ครอบครัวก้าวข้ามอุปสรรคด้านกฎหมายได้อย่างราบรื่น