รถถูกยึดไปแล้ว ยังต้องจ่ายอีก? ไขข้อจริงเรื่องหนี้ส่วนต่างหลังขายทอดตลาด

50 จำนวนผู้เข้าชม  | 

รถถูกยึดไปแล้ว ยังต้องจ่ายอีก? ไขข้อจริงเรื่องหนี้ส่วนต่างหลังขายทอดตลาด

บทนำ
หลายคนคิดว่าเมื่อรถถูกไฟแนนซ์ยึดไปและนำไปขายทอดตลาดแล้ว หนี้สิ้นสุดลง แต่ความจริงคือ หากราคาขายทอดตลาดต่ำกว่ายอดหนี้คงเหลือ ไฟแนนซ์ยังสามารถเรียกเก็บ “ส่วนต่างหนี้” จากผู้เช่าซื้อและผู้ค้ำประกันได้ ซึ่งสร้างความเจ็บปวดซ้ำให้ลูกหนี้ที่เสียทั้งรถและยังมีหนี้ค้างตามมา


2. ข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 572–574: กำหนดสิทธิและหน้าที่ของคู่สัญญาเช่าซื้อ
สัญญาเช่าซื้อ มักมีเงื่อนไขระบุชัดว่า หากผู้เช่าซื้อผิดนัด ผู้ให้เช่าซื้อมีสิทธิยึดทรัพย์ และขายทอดตลาดเพื่อนำเงินมาชำระหนี้
หากราคาขายไม่พอชำระหนี้ทั้งหมด ผู้เช่าซื้อและผู้ค้ำยังต้องรับผิดในส่วนต่าง
อย่างไรก็ดี การยึดและขายต้องเป็นไปตามขั้นตอนกฎหมาย หากไฟแนนซ์ละเมิดขั้นตอน อาจถูกโต้แย้งสิทธิเรียกส่วนต่างได้

3. สิทธิของผู้เช่าซื้อและผู้ค้ำ
ตรวจสอบความถูกต้องของการขายทอดตลาด: ต้องโปร่งใส เป็นธรรม ได้ราคาสมเหตุสมผล หากขายต่ำผิดปกติอาจโต้แย้งได้
สิทธิได้รับการบอกกล่าวล่วงหน้า: ไฟแนนซ์ต้องแจ้งก่อนยึดและก่อนขาย
ผู้ค้ำประกัน: มีสิทธิปฏิเสธความรับผิด หากการขายทอดตลาดไม่เป็นไปตามขั้นตอน หรือไฟแนนซ์ไม่เรียกชำระจากผู้เช่าซื้อก่อนตามลำดับ
สิทธิร้องเรียน: สามารถร้องเรียนต่อสำนักงานคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) หรือใช้สิทธิฟ้องโต้แย้งในศาล

4. วิธีแก้ปัญหา
เจรจาตั้งแต่เริ่มค้างชำระ: ขอปรับโครงสร้างหนี้ หรือลดดอกเบี้ยผิดนัด
ติดตามขั้นตอนการยึดและขาย: ขอสำเนาการบอกกล่าวหรือหลักฐานการขายทอดตลาด
หากถูกเรียกส่วนต่าง: ตรวจสอบว่ามีการขายในราคาที่เป็นธรรมหรือไม่ หากไม่เป็นธรรม สามารถต่อสู้ในศาล
ผู้ค้ำประกัน: ใช้สิทธิเรียกร้องให้ไฟแนนซ์เรียกจากผู้เช่าซื้อก่อน หรือโต้แย้งหากไม่ได้รับหนังสือบอกกล่าวตามกฎหมาย

5. บทสรุป
การถูกยึดรถไม่ใช่จุดสิ้นสุดของหนี้สิน ผู้เช่าซื้อและผู้ค้ำยังอาจถูกเรียกเก็บส่วนต่างต่อไป แต่กฎหมายก็กำหนดสิทธิในการปกป้องตนเองไว้ หากเข้าใจข้อกฎหมายและตรวจสอบความถูกต้องของขั้นตอนการขายทอดตลาด จะสามารถต่อสู้และหาทางออกได้อย่างเป็นธรรม

Powered by MakeWebEasy.com