54 จำนวนผู้เข้าชม |
บทนำ
ชีวิตคู่ไม่ได้ราบรื่นเสมอไป โดยเฉพาะเมื่อสามีทำงานอยู่ต่างถิ่น ไม่ได้อยู่บ้านเป็นเวลานาน ปัญหาที่น่าเศร้าใจอาจเกิดขึ้นคือ ภรรยาแอบมีความสัมพันธ์กับชายอื่น จนทำให้ความไว้วางใจและความรักพังทลาย คำถามที่ตามมาคือ สามีมีสิทธิฟ้องหย่าหรือไม่ และสามารถเรียกค่าเสียหายได้หรือเปล่า
สิทธิในการฟ้องหย่า
ตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1516 (1) กำหนดให้ “การที่คู่สมรสมีชู้หรือร่วมประเวณีกับผู้อื่น” เป็นเหตุหย่าโดยชอบด้วยกฎหมาย
สามีจึงมีสิทธิฟ้องหย่า หากพิสูจน์ได้ว่าภรรยามีชู้
เหตุหย่านี้เป็น เหตุที่ชัดเจนและศาลยอมรับ หากมีพยานหลักฐานเพียงพอ
ค่าเสียหายที่เรียกได้
เรียกค่าเสียหายจากชายชู้ (มาตรา 1523 ป.พ.พ.)
สามีมีสิทธิเรียกค่าเสียหายจากชายชู้ เนื่องจากละเมิดสิทธิสมรส
ค่าเสียหายครอบคลุมถึงความเสียหายต่อจิตใจ เกียรติยศ และศักดิ์ศรี
เรียกค่าเสียหายจากภรรยา (จำเลยร่วมคดีหย่า)
หากฟ้องหย่า ศาลอาจกำหนดให้ฝ่ายผิดชดใช้ค่าเลี้ยงดูหรือค่าเสียหายเพิ่มเติม
กรณีมีบุตร ศาลยังอาจพิจารณาสิทธิการปกครองบุตรตามความเหมาะสม
จำนวนเงินค่าเสียหาย
ไม่มีกฎหมายกำหนดตายตัว สามีสามารถเรียกได้ตามความเหมาะสม
ศาลจะพิจารณาจากฐานะของคู่สมรส ผลกระทบต่อชื่อเสียง และพฤติการณ์ของการกระทำ
แนวฎีกาหลายคดี กำหนดค่าเสียหายเป็นหลัก หมื่นถึงหลักแสนบาท
หลักฐานที่ใช้ประกอบ
ภาพถ่ายหรือวิดีโอ ที่แสดงพฤติการณ์อยู่กินฉันชู้สาว
ข้อความแชทหรือบันทึกการสื่อสาร
คำให้การพยานบุคคล เช่น เพื่อนบ้านหรือบุคคลที่พบเห็น
พยานแวดล้อม เช่น การไปเช่าห้องอยู่ร่วมกัน การใช้จ่ายเงินร่วมกัน
บทสรุป
เมื่อภรรยามีชู้ในขณะที่สามีทำงานอยู่ไกลบ้าน สามีมีสิทธิ ฟ้องหย่าตามมาตรา 1516 (1) และยังสามารถ เรียกค่าเสียหายจากชายชู้ตามมาตรา 1523 รวมถึงอาจเรียกค่าเสียหายจากภรรยาได้ ศาลจะกำหนดค่าเสียหายตามความเหมาะสม โดยคำนึงถึงผลกระทบทางจิตใจและเกียรติยศของสามี
ดังนั้น หากพบว่าถูกละเมิดสิทธิสมรส ควรเก็บพยานหลักฐานให้ครบถ้วน และรีบปรึกษาทนายความเพื่อดำเนินคดีหย่าและเรียกค่าเสียหายให้ถูกต้องตามกฎหมาย
ทนายตรินัยน์ ทนายเพชรบูรณ์ วิเชียรบุรี