91 จำนวนผู้เข้าชม |
การถูกอายัดบัญชีธนาคารกรณีเงินจากบัญชีม้าโอนเข้ามา: แนวทางชี้แจงและความรับผิดทางกฎหมายของเจ้าของบัญชี
(บทนำ)
ในยุคที่เทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันมากขึ้น การทำธุรกรรมทางการเงินผ่านระบบออนไลน์กลายเป็นเรื่องปกติ อย่างไรก็ตาม ความสะดวกนี้ก็มาพร้อมกับความเสี่ยง โดยเฉพาะจากกลุ่มมิจฉาชีพที่ใช้ “บัญชีม้า” เพื่อเป็นช่องทางรับ-โอนเงินที่ได้จากการกระทำความผิด เช่น การหลอกลวง ฉ้อโกง หรือฟอกเงิน
ปัญหาที่เกิดขึ้นอย่างแพร่หลายคือ บุคคลที่เปิดบัญชีธนาคารและใช้บัญชีอย่างสุจริตมาโดยตลอด อาจตกเป็น “ผู้ต้องสงสัย” หรือถูกอายัดบัญชีโดยเจ้าหน้าที่รัฐ หากมีเงินที่ได้จากบัญชีม้าโอนเข้ามาโดยไม่รู้ตัว ก่อให้เกิดความเสียหายทั้งทางการเงิน ชื่อเสียง และอาจนำไปสู่การดำเนินคดีอาญาโดยไม่ตั้งใจ
ประเด็นข้อเท็จจริง
นายสมชายเป็นเจ้าของบัญชีธนาคารที่เปิดใช้งานมานานหลายปี
ใช้บัญชีในการรับโอนเงินตามปกติ
ต่อมาธนาคารอายัดบัญชีโดยแจ้งว่าได้รับคำสั่งจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ
เหตุจากมีเงินที่เชื่อว่าเกี่ยวข้องกับบัญชีม้าโอนเข้ามา และมีการโอนเงินออกไป
นายสมชายไม่ทราบว่าเงินนั้นเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิด
กฎหมายที่เกี่ยวข้อง
พระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542
มาตรา 3 และ 9 ให้อำนาจอายัดทรัพย์ที่สงสัยว่าเกี่ยวข้องกับความผิดมูลฐาน
มาตรา 60 ให้อำนาจเจ้าหน้าที่ในการดำเนินการอายัดบัญชี
ประมวลกฎหมายอาญา
มาตรา 83, 86 กรณีสนับสนุน หรือรู้เห็นเป็นใจในการกระทำความผิด
มาตรา 357-364 หากมีพฤติการณ์เข้าข่ายรับของโจร
พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550
หากเงินเกี่ยวข้องกับการฉ้อโกงออนไลน์
แนวทางการดำเนินการของเจ้าของบัญชี
1. ติดต่อธนาคารและขอเอกสาร
ขอเอกสารที่แสดงเหตุผลการอายัด เช่น หนังสือแจ้งจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ
ขอรายการเดินบัญชีช่วงเวลาที่เกี่ยวข้อง
2. ติดต่อพนักงานสอบสวน
ขอทราบรายละเอียดคดี และเหตุผลการเชื่อมโยงบัญชีกับเงินผิดกฎหมาย
ขอคัดสำเนาสำนวนหรือรายงานการสืบสวน
3. จัดเตรียมพยานหลักฐานชี้แจงความบริสุทธิ์
หลักฐานแสดงแหล่งที่มาของเงินที่รับโอน เช่น สัญญาจ้าง, เอกสารซื้อขาย, ข้อตกลง
หากให้ผู้อื่นยืมบัญชี ต้องมีพยานหรือเอกสารยืนยันว่าไม่รู้เห็นเกี่ยวกับความผิด
4. ยื่นคำร้องขอปลดอายัดบัญชี
ยื่นต่อธนาคาร หรือเจ้าหน้าที่รัฐผู้มีคำสั่งอายัด พร้อมแนบเอกสารหลักฐาน
5. ปรึกษาทนายความ
เพื่อประเมินความเสี่ยงทางคดี และเตรียมการหากต้องมีการต่อสู้คดี
เจ้าของบัญชีจะถูกดำเนินคดีหรือไม่?
หากมี พยานหลักฐานเพียงพอ ว่าเจ้าของบัญชีไม่มีเจตนาร่วมในการกระทำความผิด
-- มีโอกาสหลุดพ้นจากความผิด
แต่หาก ไม่สามารถชี้แจงแหล่งที่มาเงินได้ชัดเจน หรือพฤติการณ์เข้าข่ายสงสัย
--อาจถูกดำเนินคดีฐานฟอกเงิน หรือร่วมสนับสนุนความผิดโดยรู้เห็น
ข้อเสนอแนะ
เจ้าของบัญชีควรระมัดระวังในการให้บุคคลอื่นใช้บัญชี และควรเก็บหลักฐานการรับเงินอย่างเป็นระบบ หากเกิดปัญหาดังกล่าวควรรีบดำเนินการหาข้อเท็จจริง และแสดงเจตนาความบริสุทธิ์อย่างชัดเจน เพื่อป้องกันไม่ให้กลายเป็นผู้กระทำผิดโดยไม่ตั้งใจ
จัดทำโดย...ทนายตรินัยน์ นบ, เนติบัณฑิตไทย