75 จำนวนผู้เข้าชม |
บทนำ
หลายคนทำงานให้บริษัทมานานด้วยความซื่อสัตย์และตั้งใจ แต่วันหนึ่งกลับถูกเลิกจ้างโดยไม่คาดคิด —
ไม่มีการบอกกล่าวล่วงหน้า ไม่มีเหตุผลที่ชัดเจน หรืออ้างเหตุผลทั่วไปว่า “ไม่เหมาะกับตำแหน่ง” หรือ “บริษัทขาดทุน” ทั้งที่ผลงานยังดี
คำถามคือ... การเลิกจ้างเช่นนี้ ถือว่าไม่เป็นธรรมหรือไม่?
และในฐานะลูกจ้างที่ทำงานมานานกว่า 3 ปี มีสิทธิอะไรเรียกร้องต่อศาลได้บ้าง?
2. หลักกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
(1) สิทธิของลูกจ้างเมื่อถูกเลิกจ้าง
ตาม พระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ. 2541 ลูกจ้างที่ถูกเลิกจ้างมีสิทธิตามกฎหมาย ดังนี้
ค่าชดเชยตามอายุงาน (มาตรา 118)
ทำงานครบ 3 ปีแต่ไม่ถึง 6 ปี ได้รับค่าชดเชยไม่น้อยกว่า 90 วันของค่าจ้างสุดท้าย
ค่าบอกกล่าวล่วงหน้า (มาตรา 17)
นายจ้างต้องบอกกล่าวล่วงหน้าไม่น้อยกว่า 1 งวดการจ่ายค่าจ้าง
หากไม่แจ้งล่วงหน้า ต้องจ่าย “แทนการบอกกล่าวล่วงหน้า”
ค่าชดเชยกรณีเลิกจ้างไม่เป็นธรรม (มาตรา 49 แห่ง พ.ร.บ.จัดตั้งศาลแรงงานฯ)
หากศาลเห็นว่าการเลิกจ้างไม่มีเหตุอันสมควร หรือไม่เป็นธรรม
ศาลมีอำนาจสั่งให้ รับลูกจ้างกลับเข้าทำงาน หรือ จ่ายค่าชดเชยพิเศษเพิ่มเติม แก่ลูกจ้างได้
(2) การเลิกจ้างที่ไม่เป็นธรรมคืออะไร
ศาลแรงงานจะพิจารณาว่าเป็นการเลิกจ้างไม่เป็นธรรมหรือไม่ โดยดูจาก
ไม่มีเหตุอันสมควร (เช่น ไม่เคยมีความผิด ไม่ได้ทำงานบกพร่อง)
การเลิกจ้างไม่เป็นไปตามขั้นตอน หรือไม่แจ้งล่วงหน้า
มีเจตนาไม่สุจริต เช่น กลั่นแกล้ง ตัดสิทธิ หรือเลือกปฏิบัติ
(3) เขตอำนาจศาลและกระบวนการฟ้อง
ฟ้องได้ที่ ศาลแรงงานกลาง หรือศาลแรงงานภาคที่มีเขตอำนาจ
กระบวนการเริ่มจากการ ยื่นฟ้องลูกจ้างเป็นโจทก์
ศาลแรงงานจะดำเนินการ ไกล่เกลี่ยก่อนพิจารณา หากตกลงไม่ได้จึงเข้าสู่การพิจารณาคดี
ลูกจ้างสามารถดำเนินการ ฟ้องเองได้ ไม่จำเป็นต้องมีทนาย
แต่หากคดีมีมูลค่าสูง หรือมีการต่อสู้ทางเอกสาร ควรมี “ทนายแรงงาน” เพื่อช่วยวางแนวสู้คดีให้รอบคอบ
3. แนวคำพิพากษาศาลฎีกา
คำพิพากษาฎีกาที่ 4036/2562
ศาลวินิจฉัยว่า การที่นายจ้างเลิกจ้างโดยอ้างเหตุผลว่า “ลดต้นทุนองค์กร” แต่ยังรับพนักงานใหม่เข้ามาในตำแหน่งเดียวกัน ถือว่าเป็นการเลิกจ้างโดยไม่เป็นธรรม
ลูกจ้างมีสิทธิได้รับ ค่าชดเชยพิเศษ ตามมาตรา 49 แห่ง พ.ร.บ.จัดตั้งศาลแรงงานฯ
คำพิพากษาฎีกาที่ 2591/2560
ศาลเห็นว่า นายจ้างเลิกจ้างโดยไม่แจ้งล่วงหน้า และไม่มีเหตุอันสมควร เป็นการเลิกจ้างโดยไม่เป็นธรรม
สั่งให้นายจ้างจ่าย ค่าชดเชยแทนการบอกกล่าวล่วงหน้า + ค่าชดเชยพิเศษเพิ่มเติม
คำพิพากษาฎีกาที่ 1982/2564
แม้นายจ้างจะอ้างเหตุผลว่า “ลูกจ้างมีประสิทธิภาพลดลง” แต่ไม่มีหลักฐานใดแสดงถึงการประเมินผลงานอย่างเป็นทางการ ศาลเห็นว่าเป็นการเลิกจ้างโดยไม่เป็นธรรม
สั่งให้ จ่ายค่าชดเชยพิเศษ 6 เดือนของค่าจ้างสุดท้าย
4. บทสรุป
การถูกเลิกจ้างไม่ใช่จุดจบของลูกจ้าง
แต่คือจุดเริ่มต้นของ “สิทธิในการเรียกร้องความยุติธรรม”
กฎหมายแรงงานคุ้มครองลูกจ้างให้ได้รับความเป็นธรรมทั้งในด้านค่าชดเชย ค่าบอกกล่าวล่วงหน้า และสิทธิเรียกร้องในกรณีเลิกจ้างไม่เป็นธรรม
สรุปสิทธิสำคัญของลูกจ้าง
ได้รับค่าชดเชยตามอายุงาน
ได้รับค่าบอกกล่าวล่วงหน้า (หรือแทนการบอกกล่าว)
หากเลิกจ้างโดยไม่เป็นธรรม ฟ้องศาลแรงงานขอค่าชดเชยพิเศษได้
ฟ้องเองได้ แต่การมีทนายช่วยวางแนวทางจะเพิ่มโอกาสสำเร็จในคดี
ข้อคิดจากทนายตรินัยน์
อย่าปล่อยให้ความไม่รู้ทำให้เสียสิทธิ
เพราะในคดีแรงงาน “ศาลไม่อาจยกประเด็นแทนลูกจ้างได้” —
หากไม่ได้ยกประเด็นเลิกจ้างไม่เป็นธรรมไว้ในคำฟ้องตั้งแต่ต้น อาจหมดสิทธิในภายหลัง
จัดทำโดย....ทนายตรินัยน์ นบ, เนติบัณฑิตไทย