38 จำนวนผู้เข้าชม |
หลักการสำคัญ: ดูที่ "เจตนา" ตอนคืนรถ
ศาลจะดูว่าการรับรถคืนนั้น เป็นการ "ตกลงเลิกสัญญาโดยสมัครใจ" หรือเป็นการ "ยึดรถคืนเพราะผิดสัญญา" โดยแบ่งเป็น 2 กรณีหลัก:
1. กรณี "ไม่ต้องรับผิด" ค่าส่วนต่าง (ดีต่อผู้เช่าซื้อ)
เงื่อนไข:
ผู้เช่าซื้อ ไม่มีค่างวดค้างชำระ ในวันคืนรถ
หรือ ผู้เช่าซื้อ ยอมจ่ายหนี้ที่ค้างทั้งหมดให้ครบถ้วน ก่อนส่งมอบรถคืน
และ ผู้ให้เช่าซื้อ รับรถไว้ โดยดี
ผลลัพธ์ทางกฎหมาย:
ถือว่าทั้งสองฝ่าย ตกลงเลิกสัญญาโดยปริยาย อย่างสมบูรณ์
เมื่อสัญญาเลิกกันแบบนี้ ผู้ให้เช่าซื้อจะ หมดสิทธิเรียกค่าขาดราคา (ค่าส่วนต่าง) เพราะไม่ใช่การบอกเลิกสัญญาตามเงื่อนไขการผิดนัดอีกต่อไป (อ้างอิงแนวทางฎีกา เช่น 1203/2565)
2. กรณี "ยังต้องรับผิด" ค่าส่วนต่าง (ผู้เช่าซื้อต้องระวัง)
เงื่อนไข:
ผู้เช่าซื้อ ผิดนัดค้างชำระหลายงวด
และ ส่งมอบรถคืนในขณะที่ยังมีค่างวดค้างอยู่ โดยที่ไม่ได้ชำระให้ครบถ้วน
ผลลัพธ์ทางกฎหมาย:
การคืนรถแบบนี้ อาจถูกตีความว่า ผู้เช่าซื้อเป็นฝ่ายผิดสัญญา ตั้งแต่แรก (เพราะค้างชำระ)
การที่ไฟแนนซ์รับรถคืน เป็นเพียงการรับรถเพื่อ บรรเทาความเสียหาย เท่านั้น
ดังนั้น สิทธิของไฟแนนซ์ที่จะเรียกค่าขาดราคา ตามเงื่อนไขในสัญญาที่กำหนดไว้เมื่อเกิดการผิดสัญญา ยังคงอยู่ ผู้เช่าซื้อจึงอาจต้องรับผิดชอบในค่าส่วนต่างนั้น (อ้างอิงแนวทางฎีกา เช่น 4836/2567)
สรุปสำหรับกรณี "คืนรถแต่ยังค้างจ่าย"
การที่ผู้ให้เช่าซื้อยอมรับรถคืนแม้ผู้เช่าซื้อจะยังค้างชำระ (ตามที่ระบุในคำถาม) นั้น ยังไม่พอ ที่จะทำให้ผู้เช่าซื้อหลุดพ้นจากความรับผิดในค่าขาดราคาทันที เพราะพฤติการณ์ยังแสดงว่า ผู้เช่าซื้อเป็นฝ่ายผิดสัญญา อยู่
คำแนะนำ: หากต้องการคืนรถเพื่อจบหนี้และไม่ต้องรับผิดชอบค่าส่วนต่าง ผู้เช่าซื้อควรชำระค่างวดที่ค้างทั้งหมดให้ครบถ้วนก่อน การส่งมอบรถคืน เพื่อให้เข้าเงื่อนไขการ "ตกลงเลิกสัญญาโดยปริยาย" ที่เป็นคุณตามแนวคำพิพากษาศาลฎีกา
อ้างอิงจาก ฎีกา 3252/2566
แม้ฎีกานี้ระบุว่า การรับรถคืนแม้ไม่ได้ปฏิบัติครบทุกเงื่อนไข ถือเป็นการ ผ่อนผัน และ เลิกสัญญาโดยปริยาย ทำให้ไม่ต้องรับผิดค่าขาดราคา
แต่: ฎีกาในแนวทางต่อมา (เช่น 4836/2567) ได้เน้นย้ำถึง ความสำคัญของการชำระหนี้ค้าง ด้วย หากมีการค้างชำระและคืนรถ ก็ยังเสี่ยงที่จะถูกตีความว่าเป็นการผิดสัญญาอยู่ดี ดังนั้น ทางปฏิบัติที่ปลอดภัยที่สุดคือ การเคลียร์หนี้ค้างก่อนคืนรถเสมอ
จัดทำโดย... ทนายตรินัยน์ นบ, เนติบัณฑิตไทยสมัยที่ 59