114173 จำนวนผู้เข้าชม |
ถูกฟ้องยึดเงินเดือน ทำอย่างไรดี ขอลดหย่อนได้ไหม?
เมื่อถูกฟ้องคดีหนี้และศาลมีคำพิพากษาให้ชำระหนี้ แต่ลูกหนี้ไม่มีเงินก้อนเพื่อชำระตามคำพิพากษา เจ้าหนี้สามารถดำเนินการบังคับคดีโดยยึดทรัพย์สินของลูกหนี้ได้ หนึ่งในวิธีที่เจ้าหนี้นิยมใช้คือ การยึดเงินเดือน ซึ่งทำให้ลูกหนี้จำนวนไม่น้อยกังวลว่าจะไม่เหลือเงินเลี้ยงครอบครัว คำถามสำคัญคือ หากถูกยึดเงินเดือนแล้ว จะทำอย่างไรได้บ้าง และสามารถขอลดหย่อนได้หรือไม่?
1. ความหมายของการยึดเงินเดือน
“การยึดเงินเดือน” หมายถึงการที่เจ้าพนักงานบังคับคดีมีคำสั่งให้นายจ้างของลูกหนี้หักเงินเดือนบางส่วนส่งให้เจ้าหนี้ตามคำพิพากษา โดยถือว่าเงินเดือนเป็นทรัพย์สินประเภทหนึ่งที่สามารถถูกยึดเพื่อชำระหนี้ได้ตามกฎหมาย วิธีนี้ต่างจากการอายัดทรัพย์สิน เช่น ที่ดินหรือรถยนต์ เพราะกระทบต่อรายได้โดยตรงของลูกหนี้ทุกเดือน
2. ขั้นตอนการถูกฟ้องจนถึงการยึดเงินเดือน
การยึดเงินเดือนจะเกิดขึ้นไม่ได้หากยังไม่มีคำพิพากษาถึงที่สุด ขั้นตอนโดยสรุปคือ
เจ้าหนี้ยื่นฟ้องคดีต่อศาล และศาลมีคำพิพากษาให้ลูกหนี้ต้องชำระหนี้
เมื่อลูกหนี้ไม่ชำระหนี้ตามคำพิพากษา เจ้าหนี้สามารถยื่นคำร้องบังคับคดีต่อกรมบังคับคดี
เจ้าพนักงานบังคับคดีมีคำสั่งถึงนายจ้างให้หักเงินเดือนลูกหนี้ส่งมาชำระหนี้ตามส่วนที่กฎหมายกำหนด
3. ข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 12 และมาตรา 317 กำหนดหลักการสำคัญว่า
การยึดเงินเดือนได้ไม่เกิน กึ่งหนึ่งของรายได้ เช่น หากมีรายได้ 20,000 บาท จะถูกหักสูงสุดไม่เกิน 10,000 บาทต่อเดือน
เงินบางประเภทไม่สามารถถูกยึดได้ เช่น เงินบำนาญบางประเภท เงินเลี้ยงชีพ หรือเงินสวัสดิการที่จำเป็นต่อการดำรงชีพ
หลักการนี้มีไว้เพื่อคุ้มครองลูกหนี้ไม่ให้ถูกยึดเงินเดือนจนไม่สามารถเลี้ยงดูตนเองและครอบครัวได้เลย
4. สิทธิของลูกหนี้ในการขอลดหย่อน
ลูกหนี้ไม่ได้ไร้ทางออกเสมอไป หากถูกยึดเงินเดือน สามารถยื่นคำร้องต่อศาลหรือเจ้าพนักงานบังคับคดีเพื่อขอลดหย่อนหรือผ่อนผันได้ โดยต้องมีเหตุผลเพียงพอ เช่น
มีภาระต้องเลี้ยงดูบุตรหรือบุพการีสูงอายุ
มีค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลที่จำเป็น
มีรายได้เพียงพอแค่เลี้ยงชีพขั้นต่ำ
หากศาลหรือเจ้าพนักงานเห็นว่ามีเหตุอันสมควร อาจมีคำสั่งให้หักเงินเดือนในอัตราที่น้อยกว่ากึ่งหนึ่ง เพื่อให้ลูกหนี้ยังคงดำรงชีวิตได้ตามสมควร
5. ทางออกและคำแนะนำเมื่อถูกยึดเงินเดือน
เมื่อถูกยึดเงินเดือน สิ่งที่ควรทำคือไม่ตกใจและหาทางจัดการอย่างเป็นระบบ
เจรจากับเจ้าหนี้: หากสามารถเจรจาเพื่อทำข้อตกลงผ่อนชำระได้ อาจทำให้การบังคับคดีหยุดลง
ยื่นคำร้องต่อศาล: ขอผ่อนผันหรือขอลดอัตราการยึดเงินเดือน โดยต้องแนบเอกสารยืนยันภาระค่าใช้จ่าย
จัดทำแผนการเงินใหม่: ลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นและวางแผนใช้เงินเดือนที่เหลืออย่างรอบคอบ
ปรึกษาทนายความ: เพื่อหาทางเลือกที่เหมาะสมที่สุด และปกป้องสิทธิไม่ให้ถูกเอาเปรียบ
สรุป
การถูกฟ้องยึดเงินเดือนไม่ใช่จุดสิ้นสุดของชีวิตการเงิน แม้จะกระทบต่อรายได้ แต่กฎหมายก็ยังเปิดช่องให้ลูกหนี้สามารถขอลดหย่อนหรือผ่อนผันได้ หากมีภาระจำเป็นและแสดงเหตุผลต่อศาลอย่างเหมาะสม สิ่งสำคัญคือต้องไม่หลีกเลี่ยงปัญหา ควรปรึกษาหน่วยงานหรือทนายความเพื่อหาทางออกที่ถูกต้อง เพื่อให้ยังคงสามารถดูแลครอบครัวและใช้ชีวิตได้อย่างมั่นคงในอนาคต
ทนายตรินัยน์ นบ, นบท