42 จำนวนผู้เข้าชม |
มารดาเสียชีวิต กองมรดกตกแก่ลูก แต่ลูกบางคนอยู่ต่างประเทศ จะจัดการอย่างไร?
1. บทนำ
เมื่อมารดาเสียชีวิต กองมรดกทั้งหมด เช่น บ้าน ที่ดิน เงินฝาก หรือทรัพย์สินอื่น ๆ จะตกทอดแก่บุตรทุกคนตามกฎหมาย หลายครอบครัวเข้าใจว่าเพียงแต่ตกลงกันเองก็เพียงพอ แต่ความจริงแล้ว การจัดการมรดกต้องผ่านกระบวนการศาล เพื่อให้มี “ผู้จัดการมรดก” ที่ชอบด้วยกฎหมาย ปัญหามักเกิดขึ้นเมื่อบุตรบางคนอยู่ต่างประเทศ ไม่สะดวกมาศาล แล้วใครจะจัดการแทน?
2. ข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1599 และ 1600: มรดกตกทอดแก่ทายาทโดยธรรมเมื่อเจ้ามรดกถึงแก่ความตาย
มาตรา 1713 – 1714: กำหนดให้ศาลตั้งผู้จัดการมรดก เพื่อดูแลทรัพย์สิน รวบรวมและแบ่งมรดกแก่ทายาททุกคน
ดังนั้น การจะโอน ขาย หรือจัดการทรัพย์สินในกองมรดกได้ ต้องมีผู้จัดการมรดกที่ศาลแต่งตั้ง ไม่เช่นนั้นธุรกรรมไม่สมบูรณ์
3. วิธีแก้ปัญหาเมื่อลูกบางคนอยู่ต่างประเทศ
ทายาทที่อยู่ต่างประเทศสามารถ ทำหนังสือมอบอำนาจ (POA) ให้แก่ญาติหรือทนายความในประเทศไทยเป็นผู้ดำเนินการแทน
เอกสารมอบอำนาจต้องผ่านการรับรองโดย สถานเอกอัครราชทูตหรือกงสุลไทย ในประเทศที่พำนักอยู่
จากนั้น ผู้รับมอบอำนาจสามารถยื่นคำร้องต่อศาลเพื่อขอเป็นผู้จัดการมรดก หรือร่วมให้ความยินยอมแทนผู้ที่อยู่ต่างประเทศได้
4. ขั้นตอนการยื่นคำร้องต่อศาล
ยื่นคำร้องต่อศาล ขอแต่งตั้งผู้จัดการมรดก โดยผู้ร้องอาจเป็นทายาทหรือผู้รับมอบอำนาจ
แนบหลักฐาน เช่น ใบมรณบัตรของมารดา, ทะเบียนบ้าน, บัตรประชาชนของทายาท, เอกสารสิทธิในทรัพย์สิน, และหนังสือมอบอำนาจจากทายาทที่อยู่ต่างประเทศ
ศาลนัดไต่สวน ฟังคำให้การของทายาทและตรวจสอบเอกสาร
ศาลมีคำสั่งตั้งผู้จัดการมรดก และผู้นั้นจะมีอำนาจจัดการ แบ่งปัน หรือโอนทรัพย์สินในกองมรดกอย่างถูกต้อง
5. บทสรุป
การจัดการมรดกไม่ใช่เพียงการแบ่งทรัพย์สิน แต่เป็นกระบวนการทางกฎหมายที่ต้องทำให้ถูกต้อง เพื่อป้องกันความขัดแย้งในอนาคต โดยเฉพาะเมื่อลูกบางคนอยู่ต่างประเทศ จำเป็นต้องใช้เอกสารมอบอำนาจและผ่านขั้นตอนศาล หากครอบครัวของท่านกำลังเผชิญปัญหานี้ การปรึกษาทนายความผู้มีประสบการณ์คือทางออกที่ปลอดภัยที่สุด