142 จำนวนผู้เข้าชม |
บทนำ
ปัญหาชู้สาวไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่สำหรับผู้ที่ถูกละเมิดสิทธิสมรสแล้ว ความเจ็บปวดนั้นรุนแรงและส่งผลกระทบต่อครอบครัวโดยตรง กฎหมายใหม่ได้กำหนดให้สามีหรือภริยาที่ถูกละเมิด มีสิทธิฟ้องเรียกค่าเสียหายจากชายชู้หรือหญิงทำชู้ได้โดยตรง ไม่ต้องฟ้องเฉพาะคู่สมรสเท่านั้น ถือเป็นการยกระดับการคุ้มครองสิทธิของผู้เสียหายในชีวิตสมรส
2. ข้อกฎหมายใหม่ที่เกี่ยวข้อง
มาตรา 1523 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ (แก้ไขใหม่): กำหนดให้สามีหรือภริยามีสิทธิเรียกค่าเสียหายจากบุคคลที่ประพฤติผิดละเมิดต่อสิทธิสมรสได้ เปลี่ยนคำนิยาม: เดิมกฎหมายใช้คำว่า "สามี" และ "ภริยา" แต่กฎหมายใหม่ได้เปลี่ยนเป็น "คู่สมรสฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง" และจากคำว่า "ชู้สาว" เป็น "คู่สมรสในทำนองชู้" ซึ่งเป็นการขยายนิยามให้ครอบคลุมคู่สมรสทุกเพศ ไม่จำกัดแค่ชาย-หญิงอีกต่อไปการเปลี่ยนแปลงในกฎหมายใหม่ เงื่อนไข "ที่แสดงตนโดยเปิดเผย" นี้ได้ถูกยกเลิกไปในกฎหมายฟ้องชู้ฉบับใหม่ เพื่อให้เกิดความเท่าเทียมกันมากขึ้น ทำให้คู่สมรสสามารถฟ้องร้องเรียกค่าทดแทนได้ไม่ว่าความสัมพันธ์นั้นจะเปิดเผยหรือไม่เปิดเผยก็ตาม เพียงแค่มีหลักฐานที่แสดงว่ามีการกระทำผิดในทำนองชู้สาวก็เพียงพอแล้วครับ
แนวทางการบังคับใช้: ไม่จำกัดเพียงการฟ้องหย่า แต่สามารถฟ้องเรียกค่าเสียหายจากบุคคลภายนอกที่เข้ามาเป็น “ชู้” ได้โดยตรง
หลักเกณฑ์ที่ศาลพิจารณา: พฤติการณ์การอยู่ร่วมฉันชู้สาว ความเสียหายต่อชื่อเสียง เกียรติยศ และผลกระทบต่อครอบครัว
3. สิทธิที่คู่สมรสสามารถฟ้องได้
ฟ้องชายชู้หรือหญิงชู้: เรียกค่าเสียหายทางแพ่งได้ โดยไม่จำเป็นต้องหย่ากับคู่สมรส
เรียกค่าเสียหายจากคู่สมรสด้วย: หากมีการหย่า สามารถเรียกค่าสินไหมเพิ่มเติมได้
สิทธิในการปกป้องชื่อเสียง: เพื่อเยียวยาความเสียหายทั้งต่อเกียรติและต่อจิตใจ
4. วิธีดำเนินการ
รวบรวมหลักฐาน เช่น ข้อความแชต ภาพถ่าย หรือพยานบุคคล เพื่อพิสูจน์ความสัมพันธ์ฉันชู้สาว
ยื่นฟ้องต่อศาลแพ่ง เพื่อเรียกค่าเสียหายจากบุคคลที่เป็นชู้
พิจารณาฟ้องหย่า หากต้องการยุติชีวิตสมรส ควบคู่กับการเรียกค่าเลี้ยงดูและแบ่งสินสมรส
ใช้สิทธิอย่างเหมาะสม: ไม่ใช้สิทธิในทางที่ก่อให้เกิดการละเมิดซ้ำ เช่น การประจานในสื่อสังคมออนไลน์
5. บทสรุป
กฎหมายใหม่เป็นเครื่องมือสำคัญในการคุ้มครองสิทธิของสามีภริยา หากถูกละเมิดสิทธิสมรส ไม่ต้องทนเจ็บใจเงียบ ๆ อีกต่อไป สามารถฟ้องเรียกค่าเสียหายจากชายชู้หรือหญิงทำชู้ได้โดยตรง เพื่อสร้างความเป็นธรรมและยับยั้งการกระทำซ้ำในสังคม