33 จำนวนผู้เข้าชม |
บทนำ
ในสังคมปัจจุบัน ครอบครัวที่สามีหรือภริยามี “ลูกติด” จากการสมรสครั้งก่อนหรือการอยู่กินกันก่อนหน้า เป็นเรื่องที่พบเห็นได้มาก แต่เมื่อถึงวันที่เกิดการเสียชีวิตขึ้น คำถามสำคัญก็คือ ทรัพย์สินของผู้ตายจะตกแก่ใครบ้าง? ลูกติดจะมีสิทธิหรือไม่? หากไม่เข้าใจกฎหมาย อาจนำไปสู่ความขัดแย้งและข้อพิพาทภายในครอบครัว
ขั้นตอนการรู้สิทธิและดำเนินการ
ตรวจสอบความสัมพันธ์ทางกฎหมายของบุตร
หากเป็น “บุตรโดยชอบด้วยกฎหมาย” (จดทะเบียนสมรสและเกิดภายหลัง หรือบิดารับรองบุตร) → มีสิทธิเป็นทายาทโดยธรรม
หากเป็น “บุตรนอกสมรส” ของบิดา → ต้องมีการรับรองบุตรหรือศาลพิพากษาให้เป็นบุตรโดยชอบด้วยกฎหมาย จึงจะมีสิทธิในมรดก
สำรวจเอกสารสำคัญ
สูติบัตร ทะเบียนบ้าน มรณบัตร
ทะเบียนสมรส/หย่า ของบิดามารดา
เอกสารแสดงการรับรองบุตร
ยื่นคำร้องต่อศาล (กรณีมีข้อโต้แย้ง)
หากลูกติดถูกปฏิเสธสิทธิ สามารถยื่นคำร้องต่อศาลเพื่อพิสูจน์สิทธิในการรับมรดก
จัดทำบัญชีมรดก
เมื่อศาลหรือทายาทยอมรับสิทธิแล้ว ต้องทำบัญชีมรดกเพื่อแบ่งทรัพย์ตามกฎหมาย
ประโยชน์ที่ลูกติดจะได้รับ
สิทธิในทรัพย์มรดกเท่าเทียมกับบุตรอื่น ๆ
หากเป็นบุตรโดยชอบด้วยกฎหมาย ลูกติดย่อมมีสิทธิรับมรดกเสมอภาคกับบุตรที่เกิดในสมรสปัจจุบัน
คุ้มครองสิทธิไม่ให้ถูกละเมิด
การใช้สิทธิตามกฎหมายช่วยป้องกันไม่ให้ทายาทบางฝ่ายกีดกันหรือตัดสิทธิ
ได้รับความเป็นธรรมในครอบครัว
กฎหมายให้ความสำคัญกับความเป็นบุตร ไม่ว่าบุตรจะเกิดจากใครก็ตาม
บทสรุป
ครอบครัวที่มี “ลูกติด” ไม่ได้เป็นอุปสรรคในการรับมรดก หากบุตรนั้นมีสถานะโดยชอบด้วยกฎหมาย ย่อมมีสิทธิในมรดกของบิดาหรือมารดาไม่ต่างจากบุตรคนอื่น ๆ การรู้สิทธิและดำเนินการอย่างถูกต้อง จะช่วยลดข้อพิพาทภายในครอบครัว และทำให้การแบ่งมรดกเป็นไปอย่างเป็นธรรม
หากคุณหรือครอบครัวกำลังประสบปัญหาเรื่องสิทธิของลูกติดในมรดก ควรรีบปรึกษาทนายความผู้เชี่ยวชาญ เพื่อปกป้องสิทธิและหาทางออกที่ถูกต้องตามกฎหมาย
ทนายตรินัยน์ นบ, นบท ทนายเพชรบูรณ์