คดีเด็กและเยาวชน: เมื่อเยาวชนก่อเหตุชำเรา ผลทางกฎหมายคืออะไร?

บทนำ
ปัญหาเด็กและเยาวชนเกี่ยวข้องกับพฤติกรรมทางเพศที่ไม่เหมาะสมเป็นสิ่งที่สังคมพบเจอมากขึ้น บางครั้งไม่ใช่แค่เรื่องครอบครัวอีกต่อไป แต่กลายเป็นคดีอาญาที่ส่งผลต่อชีวิตทั้งสองฝ่าย เช่น กรณี เด็กชายอายุ 16 ปี ชำเราเด็กหญิงอายุ 15 ปี เมื่อมารดาของเด็กหญิงทราบเรื่องและแจ้งความ กลายเป็นคดีที่ต้องพิจารณาทั้งด้านอาญาและแพ่ง


ประเด็นทางกฎหมายอาญา
ฐานความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา

มาตรา 277 กำหนดว่า การกระทำชำเราเด็กหญิงอายุเกิน 13 ปี แต่ไม่เกิน 15 ปี แม้จะยินยอม ก็ถือว่ามีความผิด
เด็กชายอายุ 16 ปีจึงอาจมีความผิดฐานกระทำชำเรา
การพิจารณาในศาลเยาวชน

เพราะผู้กระทำยังไม่บรรลุนิติภาวะ (อายุ 16 ปี) คดีนี้จะเข้าสู่กระบวนการของศาลเยาวชนและครอบครัว ซึ่งเน้นการแก้ไขฟื้นฟูมากกว่าการลงโทษ
สิทธิของผู้เสียหาย

มารดาของเด็กหญิงมีสิทธิร้องทุกข์และขอความคุ้มครองสิทธิให้บุตร
เด็กหญิงมีสิทธิได้รับการเยียวยาทั้งด้านกายและใจ

ความรับผิดทางแพ่ง
นอกจากความผิดอาญาแล้ว ยังเกิด ความรับผิดทางแพ่ง ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ดังนี้

ผู้ที่ต้องรับผิด

เด็กชายผู้ก่อเหตุ: แม้จะเป็นผู้เยาว์ แต่เมื่อทำละเมิด (มาตรา 420) ก็ต้องรับผิด
บิดามารดาของเด็กชาย: ต้องร่วมรับผิดด้วยตามมาตรา 429 เพราะเป็นผู้แทนโดยชอบธรรม เว้นแต่พิสูจน์ได้ว่าได้ใช้ความระมัดระวังสมควรแล้ว
สิทธิของมารดาเด็กหญิง

ในฐานะผู้ใช้อำนาจปกครอง มีสิทธิฟ้องเรียกค่าเสียหายแทนบุตรได้ เช่น ค่าเสียหายด้านร่างกาย จิตใจ และศักดิ์ศรี
ประเภทค่าเสียหายที่เรียกได้

ค่ารักษาพยาบาล
ค่าเสียหายทางจิตใจและชื่อเสียง
ค่าเสียโอกาสในอนาคต เช่น การศึกษา การใช้ชีวิต

สิทธิและหน้าที่ของผู้ปกครอง
ฝ่ายเด็กชาย ต้องร่วมมือกับกระบวนการยุติธรรม และเตรียมรับผิดทางแพ่งด้วย
ฝ่ายเด็กหญิง มีสิทธิเรียกร้องค่าเสียหาย และขอการเยียวยาตามกฎหมาย

ผลกระทบต่อเด็กและสังคม
เด็กชายผู้ก่อเหตุอาจถูกจำกัดเสรีภาพหรือถูกส่งเข้าสถานพินิจ
เด็กหญิงอาจมีบาดแผลทางใจ ต้องได้รับการฟื้นฟู
ครอบครัวทั้งสองฝ่ายต้องเผชิญปัญหาทางกฎหมายและสังคม

บทสรุป
กรณีนี้แสดงให้เห็นว่า แม้ผู้กระทำจะเป็นเยาวชน แต่กฎหมายยังถือว่าเป็นความผิดอาญาที่มีโทษ และยังมี ความรับผิดทางแพ่ง ที่ผู้ก่อเหตุและบิดามารดาต้องร่วมกันรับผิดชดใช้ค่าเสียหายให้แก่ผู้เสียหายด้วย

ดังนั้น ผู้ปกครองของทั้งสองฝ่ายควรเข้าใจสิทธิ หน้าที่ และผลทางกฎหมาย และควรรีบปรึกษาทนายความผู้เชี่ยวชาญ เพื่อหาทางออกที่เหมาะสม ปกป้องสิทธิของบุตรหลาน และลดความเสียหายในอนาคต

ทนายตรินัยน์  นบ, นบท   ทนายความวิเชียรบุุุุรี  เพชรบูรณ์