64 จำนวนผู้เข้าชม |
บทนำ
ลองจินตนาการดูว่า วันหนึ่งคุณถูกกล่าวหาในคดีที่คุณไม่ได้ก่อ และต้องใช้ชีวิตหลังกำแพงเหล็กเป็นเวลาหลายเดือนหรืออาจเป็นปี...จนกระทั่งความจริงปรากฏว่าคุณ 'บริสุทธิ์' แต่เวลาที่เสียไปจะเรียกคืนได้อย่างไร? นี่ไม่ใช่เรื่องราวในภาพยนตร์ แต่เป็นเรื่องจริงที่เกิดขึ้นในสังคมไทย และมีกฎหมายรองรับเพื่อให้ความเป็นธรรมแก่ผู้ที่ได้รับผลกระทบ
บทความนี้จะพาคุณไปสำรวจสิทธิที่คุณพึงได้รับในฐานะจำเลยผู้บริสุทธิ์และกระบวนการในการขอรับการเยียวยาจากรัฐ
เนื้อหา
ติดคุกฟรี...แล้วใครจะชดใช้?
ในทางกฎหมาย การถูกตัดสินว่าไม่มีความผิดหลังจากถูกคุมขัง ถือเป็นความเสียหายที่ร้ายแรงและไม่สามารถเรียกคืนได้ง่าย ๆ รัฐในฐานะผู้ดูแลกระบวนการยุติธรรมจึงมีหน้าที่ต้องเยียวยาความเสียหายที่เกิดขึ้น โดยมีกฎหมายเฉพาะที่เรียกว่า พระราชบัญญัติค่าตอบแทนผู้เสียหายและค่าทดแทนและค่าใช้จ่ายแก่จำเลยในคดีอาญา พ.ศ. 2544 เพื่อให้จำเลยผู้บริสุทธิ์ที่ถูกคุมขังได้รับความเป็นธรรม
การเยียวยาดังกล่าวไม่ใช่แค่การขอโทษ แต่คือการชดเชยอย่างเป็นรูปธรรม
สิทธิที่จำเลยผู้บริสุทธิ์จะได้รับ
ค่าทดแทนการถูกคุมขัง: รัฐจะจ่ายเงินทดแทนเป็นรายวันตามจำนวนวันที่คุณถูกคุมขังจริง
ค่ารักษาพยาบาล: หากคุณเจ็บป่วยในระหว่างถูกคุมขัง สามารถเบิกค่ารักษาพยาบาลได้ตามที่จ่ายจริง
ค่าใช้จ่ายในการดำเนินคดี: รวมถึงค่าทนายความ หรือค่าใช้จ่ายที่จำเป็นในการต่อสู้คดี
ค่าทดแทนอื่น ๆ: หากได้รับความเสียหายต่อร่างกาย จิตใจ หรือต้องสูญเสียรายได้ รัฐก็ยังมีค่าทดแทนส่วนนี้ให้ด้วย
การขอรับเงินเยียวยานี้ไม่ใช่เรื่องยุ่งยากอย่างที่คิด เพียงแค่คุณเตรียมเอกสารที่เกี่ยวข้อง เช่น คำพิพากษาของศาล หลักฐานการถูกคุมขัง และค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น ไปยื่นคำขอที่ กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กระทรวงยุติธรรม หรือ สำนักงานยุติธรรมจังหวัด ใกล้บ้านคุณ
รายละเอียดจำนวนเงินค่าทดแทนและค่าใช้จ่ายแก่จำเลย
จำนวนเงินที่จำเลยผู้บริสุทธิ์จะได้รับจะพิจารณาจากหลักเกณฑ์ใน พระราชบัญญัติค่าตอบแทนผู้เสียหาย และค่าทดแทนและค่าใช้จ่ายแก่จำเลยในคดีอาญา พ.ศ. 2544 ซึ่งมีการแก้ไขเพิ่มเติมในภายหลัง เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน
1. ค่าทดแทนการถูกคุมขัง
จำนวนเงิน: จะได้รับเงินในอัตรา วันละ 500 บาท ตามจำนวนวันที่ถูกคุมขังจริง
2. ค่าใช้จ่ายที่จำเป็นในการรักษาพยาบาล
จำนวนเงิน: จ่ายตามที่จ่ายจริง แต่ ไม่เกิน 40,000 บาท
เงื่อนไข: ต้องเป็นค่ารักษาพยาบาลที่เกิดขึ้นโดยตรงจากการถูกดำเนินคดี
3. ค่าฟื้นฟูสมรรถภาพทางร่างกายและจิตใจ
จำนวนเงิน: จ่ายตามที่จ่ายจริง แต่ ไม่เกิน 50,000 บาท
เงื่อนไข: ต้องเป็นค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นโดยตรงจากการถูกดำเนินคดี
4. ค่าขาดประโยชน์ทำมาหาได้
จำนวนเงิน: จ่ายตามอัตรา ค่าจ้างขั้นต่ำในท้องที่ ที่จำเลยประกอบอาชีพ
เงื่อนไข: เฉพาะในระหว่างที่ไม่สามารถประกอบการงานได้ตามปกติ
5. ค่าใช้จ่ายที่จำเป็นในการดำเนินคดี
จำนวนเงิน:
ค่าทนายความ: จ่ายตามที่จ่ายจริง แต่ไม่เกินอัตราที่กำหนดไว้
ค่าใช้จ่ายอื่น ๆ: จ่ายตามที่จ่ายจริง แต่ ไม่เกิน 30,000 บาท
6. ค่าทดแทนในกรณีถึงแก่ความตาย
หากจำเลยถึงแก่ความตายอันเป็นผลโดยตรงจากการถูกดำเนินคดี จะมีสิทธิได้รับค่าทดแทนเพิ่มเติม ดังนี้
ค่าทดแทน: จำนวน 100,000 บาท
ค่าจัดการศพ: จำนวน 20,000 บาท
ค่าขาดอุปการะเลี้ยงดู: ไม่เกิน 40,000 บาท
ค่าเสียหายอื่น ๆ: ไม่เกิน 40,000 บาท
การยื่นคำขอรับค่าทดแทนนี้มีอายุความ 1 ปี นับจากวันที่ศาลมีคำพิพากษาถึงที่สุด หากพ้นกำหนดแล้วจะหมดสิทธิ์ในการรับเงินเยียวยา
คุณสามารถยื่นคำขอรับเงินค่าทดแทนได้ที่หน่วยงานเหล่านี้:
กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กระทรวงยุติธรรม (ในเขตกรุงเทพฯ)
สำนักงานยุติธรรมจังหวัดทั่วประเทศ
สถานีตำรวจทั่วประเทศ
หากมีข้อสงสัยเพิ่มเติม สามารถโทรสอบถามได้ที่ สายด่วนยุติธรรม 1111 กด 77
ข้อแนะนำ
หากคุณหรือคนใกล้ตัวตกอยู่ในสถานการณ์เช่นนี้ อย่าท้อถอยและปล่อยผ่านไป เพราะสิทธิในการเยียวยาเป็นของคุณ และคุณมีสิทธิที่จะได้รับมันกลับคืนมา เพื่อเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่เหลืออยู่ต่อไป ควรปรึกษาเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องโดยเร็วที่สุดเพื่อตรวจสอบสิทธิ์และเตรียมเอกสารให้พร้อม
บทสรุป
เรื่องราวของจำเลยผู้บริสุทธิ์ที่ต้องติดคุกฟรี เป็นเครื่องเตือนใจว่าความผิดพลาดในกระบวนการยุติธรรมสามารถเกิดขึ้นได้เสมอ แต่ในขณะเดียวกัน ก็เป็นเครื่องยืนยันว่ากฎหมายไม่ได้ละเลยผู้ที่ต้องเผชิญกับชะตากรรมนั้น การชดเชยด้วยตัวเงินอาจไม่สามารถซื้อเวลาที่หายไปกลับคืนมาได้ แต่ก็เป็นการแสดงให้เห็นถึงความรับผิดชอบของรัฐที่มีต่อประชาชน และเป็นการให้โอกาสอีกครั้งในการเริ่มต้นชีวิตใหม่ได้อย่างมีศักดิ์ศรี (หากข้อความมีประโยชน์ช่วยแชร์ด้วย)
ทนายตรินัยน์ ทนาย วิเชียรบุรี เพชรบูรณ์