ฟ้องจำเลยที่อยู่ต่างประเทศ... ส่งหมายอย่างไรให้ศาลรับ และไม่ถูกยกฟ้อง

325 จำนวนผู้เข้าชม  | 

ฟ้องจำเลยที่อยู่ต่างประเทศ... ส่งหมายอย่างไรให้ศาลรับ และไม่ถูกยกฟ้อง

ฟ้องจำเลยที่อยู่ต่างประเทศ... ส่งหมายอย่างไรให้ศาลรับ และไม่ถูกยกฟ้อง
 

การดำเนินคดีแพ่งมีหัวใจสำคัญอยู่ที่การส่งหมายเรียกและสำเนาคำฟ้องให้แก่จำเลยโดยชอบด้วยกฎหมาย เพื่อให้จำเลยได้มีโอกาสรับรู้และต่อสู้คดีอย่างเต็มที่ แต่จะทำอย่างไรเมื่อคู่กรณีของคุณไม่ได้อาศัยอยู่ในประเทศไทย? กระบวนการส่งหมายข้ามแดนที่ดูซับซ้อนและเต็มไปด้วยกำแพงทางกฎหมายนี้ หากดำเนินการผิดพลาดเพียงนิดเดียว ก็อาจส่งผลให้คดีล่าช้า เสียเวลาและค่าใช้จ่าย หรือเลวร้ายที่สุดคือ คำพิพากษาอาจถูกเพิกถอนได้ในภายหลัง บทความนี้คือคู่มือที่จะนำทางคุณผ่านกระบวนการทั้งหมด เพื่อให้การส่งหมายข้ามแดนเป็นไปอย่างราบรื่น ถูกต้อง และไม่ถูกศาลยกฟ้อง


 

เนื้อหา
 

 

ข้อเท็จจริง: สถานการณ์ที่พบบ่อย
 

เพื่อให้เห็นภาพชัดเจน ลองนึกถึงสถานการณ์สมมตินี้:

"บริษัท A ในประเทศไทย ได้ทำสัญญาซื้อขายสินค้ากับนาย B ซึ่งเป็นชาวต่างชาติ แต่เมื่อถึงกำหนด นาย B กลับผิดสัญญาไม่ชำระค่าสินค้าและเดินทางกลับประเทศของตนไป บริษัท A จึงต้องการฟ้องร้องเรียกค่าเสียหาย แต่ปัญหาคือ จะส่งหมายฟ้องไปยังนาย B ที่อยู่ต่างประเทศได้อย่างไร?"
นี่คือจุดเริ่มต้นของความท้าทายที่นักกฎหมายและตัวความต้องเผชิญ ซึ่งมีข้อกฎหมายและวิธีปฏิบัติที่ต้องทำความเข้าใจอย่างลึกซึ้ง

ข้อกฎหมาย: เปิดช่องทางตามกฎหมาย 

หลักการสำคัญอยู่ภายใต้ ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง (ป.วิ.แพ่ง) ซึ่งกำหนดวิธีการส่งหมายไว้ 2 ช่องทางหลักเมื่อจำเลยอยู่ต่างประเทศ

1. การส่งหมายผ่านช่องทางทูต (The Diplomatic Channel) ⚖️

นี่คือวิธีที่เป็นทางการและเป็นที่ยอมรับมากที่สุด ตาม ป.วิ.แพ่ง มาตรา 83 อัฏฐ ประกอบกับข้อกำหนดของประธานศาลฎีกาว่าด้วยการส่งหมายแก่บุคคลที่อยู่ต่างประเทศฯ พ.ศ. 2523 มีขั้นตอนดังนี้:

ยื่นคำร้องต่อศาล: ทนายโจทก์ต้องยื่นคำร้องขอให้ศาลมีคำสั่งส่งหมายไปให้จำเลย ณ ภูมิลำเนาในต่างประเทศ โดยระบุที่อยู่ของจำเลยให้ชัดเจนที่สุด
ศาลมีคำสั่ง: เมื่อศาลพิจารณาแล้วอนุญาต จะมีคำสั่งให้ส่งหมายไปยังกระทรวงยุติธรรม
ส่งผ่านกระทรวง: สำนักงานศาลยุติธรรมจะส่งเรื่องต่อไปยัง กระทรวงการต่างประเทศ เพื่อดำเนินการผ่านช่องทางการทูต
สถานทูตไทยดำเนินการ: กระทรวงการต่างประเทศจะส่งหมายต่อไปยังสถานทูตหรือสถานกงสุลไทยในประเทศที่จำเลยอาศัยอยู่
ประสานงานนำส่ง: สถานทูตไทยจะประสานงานกับหน่วยงานของประเทศนั้นๆ เพื่อนำส่งหมายให้ถึงมือจำเลยตามกฎหมายของประเทศปลายทาง
แจ้งผลกลับ: เมื่อส่งหมายสำเร็จ จะมีใบรับรองการส่งหมายส่งกลับมาตามลำดับช่องทางเดิมจนถึงศาลไทย เพื่อยืนยันว่าการส่งหมายเสร็จสมบูรณ์
2. การส่งโดยวิธีอื่นตามที่กฎหมายกำหนด

ในบางกรณี อาจใช้วิธีอื่นได้ เช่น การที่จำเลยมอบอำนาจให้บุคคลใดบุคคลหนึ่งในประเทศไทยเป็นผู้รับหมายแทน หรือการส่งหมายผ่านบริษัทเอกชนที่รับดำเนินการส่งเอกสารทางกฎหมายระหว่างประเทศ (International Process Server) ซึ่งวิธีหลังนี้จะต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่ากฎหมายของประเทศปลายทางยอมรับและมีผลสมบูรณ์

กรณีพิเศษ: ไม่ทราบภูมิลำเนาที่แน่นอนในต่างประเทศ

หากสืบหาอย่างเต็มที่แล้วแต่ยังไม่ทราบที่อยู่ของจำเลย โจทก์สามารถยื่นคำร้องต่อศาลเพื่อขอ "ส่งหมายโดยการประกาศโฆษณา" ผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ของศาลหรือหนังสือพิมพ์ได้ ซึ่งต้องแสดงหลักฐานให้ศาลเห็นว่าได้พยายามสืบค้นอย่างสุดความสามารถแล้ว แต่ไม่พบ 

ข้อแนะนำและการแก้ไข: Checklist เพื่อคดีไม่สะดุด ✅ 

เพื่อป้องกันความผิดพลาด การเตรียมตัวคือหัวใจสำคัญที่สุด

เตรียมข้อมูลให้พร้อมที่สุด: ก่อนยื่นฟ้อง ควรมีข้อมูลของจำเลยที่ชัดเจน ได้แก่ ชื่อ-นามสกุลเต็มตามกฎหมาย, ที่อยู่ล่าสุดที่ตรวจสอบได้ในต่างประเทศ, และสำเนาหนังสือเดินทาง หากมี จะช่วยให้กระบวนการราบรื่นขึ้นมาก
แปลเอกสารสำคัญ: เตรียม คำแปลคำฟ้องและหมายเรียกเป็นภาษาอังกฤษ หรือภาษาทางการของประเทศปลายทาง โดยต้องให้ผู้แปลที่เชื่อถือได้รับรองคำแปลให้ถูกต้อง การมีเอกสารแปลที่สมบูรณ์จะช่วยลดขั้นตอนและป้องกันการถูกปฏิเสธจากประเทศปลายทาง
เผื่อเวลาและค่าใช้จ่าย: ⏳ กระบวนการส่งหมายผ่านช่องทางทูต ใช้เวลานานมาก โดยเฉลี่ยอาจอยู่ที่ 6-12 เดือน หรือมากกว่านั้น ขึ้นอยู่กับประเทศปลายทาง นอกจากนี้ยังมีค่าใช้จ่ายในการแปลเอกสารและค่าธรรมเนียมต่างๆ ที่โจทก์ต้องเป็นผู้รับผิดชอบ ควรแจ้งให้ลูกความทราบล่วงหน้า
ทำคำร้องต่อศาลให้ชัดเจน: ในคำร้องขอส่งหมาย ต้องระบุให้ชัดเจนว่าประสงค์จะส่งผ่านช่องทางทูต และโจทก์ยินดีรับผิดชอบค่าใช้จ่ายทั้งหมดที่เกิดขึ้น
ติดตามเรื่องอย่างสม่ำเสมอ: เนื่องจากกระบวนการยาวนาน ควรมีการติดตามความคืบหน้ากับเจ้าหน้าที่ศาลเป็นระยะ เพื่อให้แน่ใจว่าเอกสารไม่ได้ตกหล่นหรือติดขัดในขั้นตอนใดขั้นตอนหนึ่ง

 

บทสรุป

Powered by MakeWebEasy.com