99 จำนวนผู้เข้าชม |
หย่าแล้ว…ยังแบ่งทรัพย์ได้ไหม? คำพิพากษาศาลฎีกาชี้ชัด สัญญาประนีประนอมไม่ครอบคลุมสินสมรส
บทนำ
หลายคู่สมรสที่ไปถึงจุดสิ้นสุดของชีวิตคู่ มักเข้าใจว่า “ทำสัญญาประนีประนอมยอมความ” แล้วศาลมีคำพิพากษาตามยอม ก็เป็นอันเสร็จสิ้นทุกเรื่อง แต่ในความจริง หากในคดีหย่านั้นไม่ได้มีการบรรยายหรือร้องขอเกี่ยวกับสินสมรสโดยตรง เช่น บ้านหรือที่ดิน การหย่าก็ไม่ตัดสิทธิในการฟ้องแบ่งสินสมรสในภายหลัง ศาลฎีกาได้วางแนวไว้อย่างชัดเจนในประเด็นนี้
สาระคำพิพากษา
ในคดีนี้ คู่ความเคยฟ้องหย่ากันมาก่อน โดยมีสัญญาประนีประนอมยอมความและศาลพิพากษาตามยอม แต่สัญญาดังกล่าวพูดถึงเพียงเรื่องการหย่าและการโอนรถกระบะ ไม่ได้กล่าวถึงที่ดินและบ้านพิพาท ต่อมาอดีตคู่สมรสฝ่ายหนึ่งจึงฟ้องขอแบ่งที่ดินและบ้านพิพาทอีกคดี
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า การฟ้องใหม่นี้ไม่เป็น “ฟ้องซ้ำ” เพราะในคดีแรกไม่ได้มีการบรรยายฟ้องหรือยุติข้อพิพาทเกี่ยวกับที่ดินและบ้านพิพาทแต่อย่างใด แม้ในสัญญาประนีประนอมจะมีถ้อยคำทั่วไปว่าทั้งสองฝ่าย “ไม่ติดใจจะเรียกร้องใด ๆ ต่อกันอีก” แต่ก็ไม่อาจตีความให้ครอบคลุมถึงทรัพย์สินที่ไม่ได้เป็นข้อพิพาทในคดีแรก
ทั้งนี้ ที่ดินพิพาทซื้อมาภายหลังการสมรสจึงถือเป็นสินสมรสตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1474 (1) และต้องแบ่งให้คู่สมรสอีกฝ่ายกึ่งหนึ่ง อย่างไรก็ดี เนื่องจากคู่สมรสฝ่ายหนึ่งไม่มีสัญชาติไทย จึงไม่อาจถือกรรมสิทธิ์ในที่ดินได้ ต้องดำเนินการจำหน่ายตามขั้นตอนที่กฎหมายที่ดิน มาตรา 94 กำหนด ส่วนสิ่งปลูกสร้าง (บ้าน) ไม่ต้องห้ามต่างด้าวถือกรรมสิทธิ์ จึงแบ่งได้ตามสิทธิ
หลักกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
ป.วิ.พ. มาตรา 148 – ห้ามฟ้องซ้ำ หากข้อพิพาทเคยยุติไปแล้วในคดีก่อน
ป.พ.พ. มาตรา 1474 (1) – กำหนดว่าสินสมรส ได้แก่ ทรัพย์สินที่ได้มาระหว่างสมรส
ป.พ.พ. มาตรา 1533 – คู่สมรสมีสิทธิได้รับสินสมรสคนละครึ่ง
กฎหมายที่ดิน มาตรา 86 – ห้ามคนต่างด้าวถือครองที่ดิน เว้นแต่เข้าเกณฑ์พิเศษ
กฎหมายที่ดิน มาตรา 94 – กำหนดให้คนต่างด้าวที่ได้มาซึ่งที่ดินโดยฝ่าฝืน ต้องจำหน่ายภายในเวลาที่อธิบดีกรมที่ดินกำหนด
ข้อคิดสำหรับประชาชน
การหย่าไม่ปิดประตูทุกเรื่อง – หากในคดีหย่าไม่ได้กล่าวถึงการแบ่งสินสมรส ก็ยังสามารถฟ้องเรียกแบ่งได้ในภายหลัง
ถ้อยคำทั่วไปในสัญญาประนีประนอม – เช่น “ไม่ติดใจจะเรียกร้องใด ๆ ต่อกันอีก” จะตีความครอบคลุมเฉพาะข้อพิพาทที่ถูกยกขึ้นฟ้องในคดีนั้นเท่านั้น
ที่ดินที่ซื้อภายหลังสมรสเป็นสินสมรส – คู่สมรสมีสิทธิคนละครึ่ง แม้จะมีชื่อคนเดียวในโฉนด
คนต่างด้าวและการถือครองที่ดิน – แม้จะได้ที่ดินมา แต่กฎหมายบังคับให้ต้องจำหน่าย ไม่ใช่ไม่มีผลใด ๆ เลย
บทสรุป
คำพิพากษาศาลฎีกานี้สะท้อนให้เห็นว่า “หย่าแล้ว ยังแบ่งสินสมรสได้” หากประเด็นทรัพย์สินไม่ได้ถูกกล่าวถึงในคดีแรก และยังเป็นบทเรียนให้คู่สมรสเข้าใจสิทธิของตนอย่างชัดเจน โดยเฉพาะเรื่องทรัพย์สินที่ได้มาภายหลังสมรส ซึ่งกฎหมายถือว่าเป็นสินสมรสที่ต้องแบ่งกัน การทำสัญญาประนีประนอมจึงควรระบุให้ชัดเจน มิฉะนั้นอาจต้องกลับมาเจอคดีใหม่ในภายหลัง
ฎีกาที่ 140/2563 ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า การฟ้องหย่าพร้อมสัญญาประนีประนอมยอมความที่มิได้กล่าวถึงสินสมรส ไม่อาจถือว่าประเด็นทรัพย์สินเคยยุติไปแล้ว การฟ้องแบ่งสินสมรสในภายหลังจึงไม่เป็นฟ้องซ้ำ และที่ดินที่ได้มาในระหว่างสมรสถือเป็นสินสมรส แม้คู่สมรสฝ่ายหนึ่งจะไม่มีสัญชาติไทยก็ตาม แต่ต้องดำเนินการจำหน่ายตาม กฎหมายที่ดิน มาตรา 94
- หากคุณกำลังอยู่ในขั้นตอนการหย่า หรือมีข้อพิพาทเกี่ยวกับทรัพย์สิน ควรปรึกษาทนายความผู้เชี่ยวชาญด้านครอบครัว เพื่อวางแผนและคุ้มครองสิทธิของคุณอย่างรอบคอบที่สุด
ทนาตรินัยน์ นบ, เนติบัณฑิตยไทย โทร. 0635955444