100 จำนวนผู้เข้าชม |
ลงทุนลม ๆ แล้ง ๆ หลอกกู้เงินผ่านกลุ่มแชท 25 คน ศาลชี้ผิดฉ้อโกงประชาชน – บทเรียนสำคัญที่ต้องรู้
บทนำ
ปัจจุบันการลงทุนผ่านกลุ่มแชทหรือโซเชียลมีเดียแพร่หลายอย่างมาก หลายครั้งผู้คนถูกชักชวนด้วยผลตอบแทนสูงเกินจริงจนหลงเชื่อ นำเงินไปลงทุนโดยไม่ได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงให้รอบด้าน คำพิพากษาฎีกาที่ 4564/2564 เป็นตัวอย่างชัดเจนที่ศาลยืนยันว่า การหลอกให้กู้ยืมเงินหรือร่วมลงทุนผ่านกลุ่มแชท หากมีสมาชิกตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป ย่อมเข้าข่ายความผิดฐาน กู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน มีโทษหนัก แม้ผู้เสียหายจะไม่ร้องทุกข์ก็ตาม
สาระคำพิพากษา
จำเลยลงข้อความเท็จในกลุ่มแชท มีสมาชิก 25 คน
หลอกว่าจะนำเงินกู้ไปลงทุนกับนายทุนธุรกิจรถยนต์ที่สุราษฎร์ธานี พร้อมจ่ายผลตอบแทนสูงกว่าอัตราดอกเบี้ยที่สถาบันการเงินพึงจ่ายได้
แท้จริงจำเลยรู้อยู่แล้วว่าไม่สามารถลงทุนหรือสร้างผลตอบแทนตามที่กล่าวได้ และจะนำเงินจากผู้เสียหายรายใหม่มาหมุนจ่ายผู้เสียหายรายเก่า (ลักษณะ แชร์ลูกโซ่)
ผู้เสียหายหลายรายหลงเชื่อและโอนเงินให้จำเลย
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า การกระทำดังกล่าวเข้าองค์ประกอบความผิดตาม พระราชกำหนดการกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน พ.ศ. 2527 มาตรา 4 และ 12
แม้ผู้เสียหายจะไม่ใช่ผู้เสียหายโดยนิตินัย แต่เพราะเป็นความผิดอาญาแผ่นดิน พนักงานสอบสวนมีอำนาจดำเนินคดีได้โดยไม่ต้องรอคำร้องทุกข์
หลักกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
พระราชกำหนดการกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน พ.ศ. 2527
มาตรา 4: การกู้ยืมเงินโดยโฆษณา ชักชวนให้ประชาชนเกิน 10 คนขึ้นไป เชื่อว่าจะได้รับผลตอบแทน แต่แท้จริงไม่มีความสามารถหรือไม่มีธุรกิจจริงรองรับ ถือเป็นความผิด
มาตรา 12: กำหนดโทษจำคุกและปรับที่รุนแรงต่อผู้กระทำ
หลักกฎหมายอาญาแผ่นดิน
ความผิดประเภทนี้เป็น “ความผิดอาญาแผ่นดิน” → ไม่ต้องรอผู้เสียหายร้องทุกข์ ตำรวจและอัยการดำเนินคดีได้เอง
ข้อคิดสำหรับประชาชน
ผลตอบแทนสูงเกินจริง = สัญญาณอันตราย: ไม่มีการลงทุนที่ให้ดอกเบี้ยสูงกว่าสถาบันการเงินโดยไม่เสี่ยง
กลุ่มแชทไม่ใช่พื้นที่ปลอดภัย: แม้จะมีแต่เพื่อนหรือคนรู้จัก แต่หากถูกหลอกก็เข้าข่ายฉ้อโกงเช่นกัน
การกู้ยืมเงินที่แฝงแชร์ลูกโซ่: มักใช้วิธีหมุนเงินจากผู้เสียหายรายใหม่มาจ่ายรายเก่า สุดท้ายทุกคนเสียหาย
กฎหมายปกป้องประชาชน: ความผิดนี้เป็นอาญาแผ่นดิน เจ้าหน้าที่รัฐสามารถดำเนินคดีได้เอง ไม่ต้องรอให้ผู้เสียหายไปแจ้งความ
บทสรุป
ฎีกาที่ 4564/2564 ตอกย้ำว่า การชักชวนลงทุนผ่านกลุ่มแชท แม้ดูเหมือนเพียงการ “กู้ยืมกันเอง” แต่หากมีการโฆษณาหลอกลวงต่อบุคคลตั้งแต่ 10 คนขึ้นไปและไม่สามารถจ่ายผลตอบแทนจริงได้ ย่อมเข้าข่าย ฉ้อโกงประชาชน มีโทษร้ายแรง จำคุกและปรับตามกฎหมาย
--- บทเรียนสำคัญ คือ อย่าหลงเชื่อคำชักชวนผลตอบแทนสูงเกินจริง ควรตรวจสอบทุกครั้ง และหากตกเป็นผู้เสียหาย ให้รีบปรึกษาทนายเพื่อใช้สิทธิทางกฎหมายทันที เพราะคดีนี้ไม่ใช่เพียงเรื่องส่วนบุคคล แต่เป็นเรื่องที่กระทบต่อสังคมโดยรวม
ทนายตรินัยน์ นบ, เนติบัณฑิตยไทย