48 จำนวนผู้เข้าชม |
พักหนี้ไม่ใช่พักดอกเบี้ย? ศาลฎีกาชี้ ผู้ให้เช่าซื้อคิดดอกเบี้ยระหว่างพักชำระหนี้ไม่ได้
บทนำ
ในช่วงที่เศรษฐกิจฝืดเคือง หลายคนที่ผ่อนรถไม่ไหวมักหันไปขอ “พักชำระหนี้” จากไฟแนนซ์เพื่อบรรเทาภาระชั่วคราว แต่ปัญหาที่ตามมาคือ เมื่อครบกำหนดกลับถูกเรียกเก็บ “ดอกเบี้ยระหว่างพักหนี้” เพิ่มเติมอีกจำนวนหนึ่ง ก่อให้เกิดข้อสงสัยว่าเป็นการเรียกเก็บที่ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2276/2568 ได้วินิจฉัยปัญหานี้ไว้อย่างน่าสนใจ
สาระคำพิพากษา
คดีนี้ โจทก์ (ผู้ให้เช่าซื้อ) อนุญาตให้จำเลยที่ 1 พักชำระหนี้งวดรถตั้งแต่งวดกุมภาพันธ์ 2563 ถึงกรกฎาคม 2563 รวม 6 เดือน แต่โจทก์ยังคิดดอกเบี้ยในระหว่างพักหนี้ ในอัตราร้อยละ 12.09 ต่อปี เป็นเงินรวม 14,922.22 บาท
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ดอกเบี้ยดังกล่าวเป็นผลประโยชน์เพิ่มเติมนอกเหนือจากที่ตกลงไว้ในสัญญาเช่าซื้อ ซึ่งแต่เดิมผู้เช่าซื้อต้องชำระราคาเช่าซื้อรวม 1,930,676 บาท การที่โจทก์คิดดอกเบี้ยเพิ่มระหว่างพักหนี้ จึงถือเป็น “ค่าเช่าซื้อค้างชำระ” ก่อนสัญญาเลิกกัน และเมื่อสัญญาเช่าซื้อเลิกกัน คู่สัญญาต้องกลับคืนสู่ฐานะเดิมตาม ป.พ.พ. มาตรา 391 วรรคหนึ่ง โจทก์จึงไม่มีสิทธิเรียกดอกเบี้ยที่เกิดขึ้นในระหว่างการพักหนี้นั้น
หลักกฎหมาย
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 391
เมื่อสัญญาเลิกกัน คู่สัญญาต้องกลับคืนสู่ฐานะเดิม ไม่อาจเรียกร้องประโยชน์เกินกว่าที่ควรได้
แนวคิดเรื่องความสุจริตและความสมเหตุสมผลในการใช้สิทธิ
การพักชำระหนี้เป็นมาตรการช่วยเหลือ หากผู้ให้เช่าซื้อยังคิดดอกเบี้ยเพิ่ม จะถือว่าเป็นการใช้สิทธิที่ไม่สุจริตและเป็นการเอาเปรียบผู้บริโภค
หลักคดีผู้บริโภค
ศาลมีอำนาจตรวจสอบความเป็นธรรม แม้จะมีสัญญาหรือข้อตกลงที่เขียนไว้ หากไม่เป็นธรรม ศาลสามารถตัดสิทธิเรียกร้องบางส่วนออกได้
ข้อคิดสำหรับผู้บริโภค
การพักชำระหนี้ ไม่ควรมีดอกเบี้ยซ้อน หากถูกเรียกเก็บ ควรตรวจสอบว่าสัญญาหรือข้อตกลงนั้นชอบด้วยกฎหมายหรือไม่
แม้จะเซ็นยอมรับ แต่หากเป็นการเอาเปรียบหรือขัดต่อหลักกฎหมาย ศาลสามารถคุ้มครองผู้บริโภคได้
ผู้บริโภคควรเก็บหลักฐานทุกครั้ง ไม่ว่าจะเป็นหนังสือพักหนี้ สัญญาแนบท้าย หรือการคำนวณยอด เพื่อใช้เป็นข้อสู้ในศาลหากเกิดข้อพิพาท
บทสรุป
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2276/2568 ชี้ชัดว่า การพักชำระหนี้มิได้เปิดทางให้ไฟแนนซ์เรียกดอกเบี้ยเพิ่มในช่วงพักได้ หากผู้ให้เช่าซื้อเรียกเก็บเกินไป ศาลสามารถตัดทอนให้กลับสู่ความเป็นธรรมได้ ข้อคิดสำคัญคือ ผู้บริโภคไม่ควรยอมจำนนต่อเงื่อนไขที่ไม่ถูกต้องตามกฎหมาย และควรปรึกษาทนายเพื่อใช้สิทธิที่กฎหมายคุ้มครอง
---หากคุณหรือคนใกล้ชิดเจอปัญหา “พักหนี้แต่ไม่พักดอกเบี้ย” คำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายอาจช่วยให้คุณไม่ต้องจ่ายเกินกว่าที่ควรจริง ๆ
ทนายตรินัยน์ นบ, เนติบัณฑิตไทย