47 จำนวนผู้เข้าชม |
แนวทางการต่อสู้คดีเงินกู้: ลูกหนี้ควรรู้อะไรบ้าง?
บทนำ
คดีเงินกู้เป็นหนึ่งในข้อพิพาทที่พบมากที่สุดในศาล ไม่ว่าจะเป็นการกู้ยืมระหว่างบุคคล ธนาคาร หรือสถาบันการเงิน เมื่อลูกหนี้ไม่ชำระหนี้ตรงตามที่ตกลง เจ้าหนี้มักยื่นฟ้องร้องเพื่อบังคับคดี แต่ในทางกฎหมาย ลูกหนี้ไม่ใช่ว่าจะต้องแพ้คดีเสมอไป เพราะยังมี “ข้อต่อสู้” หลายประการที่สามารถหยิบยกขึ้นมาใช้ได้ หากพิสูจน์ได้จริง ศาลอาจตัดหนี้ ลดหนี้ หรือยกฟ้องได้
หลักกฎหมายสำคัญที่เกี่ยวข้อง
การเรียกดอกเบี้ยเกินอัตรา
ตาม ป.พ.พ. มาตรา 654 ดอกเบี้ยต้องไม่เกินร้อยละ 15 ต่อปี หากตกลงเกินกว่านี้ ถือเป็นโมฆะทั้งสิ้น
อายุความของหนี้กู้
10 ปี หากเป็นหนี้กู้ที่ไม่กำหนดงวดชำระ
5 ปี หากกำหนดชำระเป็นงวดๆ (มาตรา 193/30)
หลักฐานการกู้ยืม
หนี้เงินกู้เกิน 2,000 บาท ต้องมีหลักฐานเป็นหนังสือและลงลายมือชื่อผู้กู้ (มาตรา 653)
นิติกรรมอำพราง
หากการกู้เป็นเพียงการอำพรางธุรกรรมอื่น เช่น การโอนที่ดินค้ำประกัน อาจฟ้องโมฆะได้ (มาตรา 155)
การชำระหนี้เสร็จสิ้นหรือเกินจำนวนแล้ว
หากลูกหนี้พิสูจน์ว่าได้ชำระเงินต้นหรือดอกเบี้ยครบแล้ว ย่อมถือว่าหนี้ระงับไปตามมาตรา 328
แนวคำพิพากษาศาลฎีกาที่เกี่ยวข้อง
ฎีกาที่ 3944/2542 เจ้าหนี้เรียกดอกเบี้ยเกินกว่าร้อยละ 15 ต่อปี ศาลวินิจฉัยว่าเป็นโมฆะทั้งหมด ลูกหนี้นำเงินดอกเบี้ยที่ชำระไปแล้วมาหักเงินต้นได้
ฎีกาที่ 2134/2556 ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า อายุความหนี้เงินกู้แบบผ่อนชำระเป็นงวด คือ 5 ปีนับแต่ผิดนัดงวดสุดท้าย หากเจ้าหนี้ฟ้องเกินกำหนด ถือว่าขาดอายุความ
ฎีกาที่ 4561/2547 ระบุว่าการกู้ยืมเงินที่ไม่มีการส่งมอบเงินจริงเป็นการกู้ที่ไม่สมบูรณ์ ไม่ก่อให้เกิดหนี้
ฎีกาที่ 1705/2558 ศาลไม่รับฟังสัญญากู้ที่แท้จริงแล้วเป็นการอำพรางโอนที่ดิน ถือว่าสัญญาเป็นโมฆะ
การวิเคราะห์สิทธิของลูกหนี้
หากเจ้าหนี้เรียกดอกเบี้ยเกินกฎหมาย ลูกหนี้สามารถยื่นคำให้การโต้แย้ง และใช้ดอกเบี้ยที่ชำระเกินมาหักเงินต้นได้
หากการฟ้องเกินอายุความ ลูกหนี้ต้องยกข้อต่อสู้ในศาล ไม่เช่นนั้นศาลจะไม่ยกให้เอง
หากสัญญาไม่สมบูรณ์ เช่น ไม่มีลายมือชื่อจริง หรือไม่ได้ส่งมอบเงินจริง ลูกหนี้สามารถยกขึ้นสู้เพื่อปฏิเสธหนี้ได้
หากพิสูจน์ได้ว่าหนี้เป็นนิติกรรมอำพราง ลูกหนี้อาจรอดพ้นจากการบังคับคดี
หากได้ชำระเงินไปแล้วบางส่วน ต้องเก็บหลักฐานการชำระไว้เพื่อลดภาระหนี้
บทสรุป
คดีเงินกู้ไม่ได้หมายความว่าลูกหนี้จะต้องแพ้เสมอไป หากเข้าใจสิทธิและข้อต่อสู้ทางกฎหมาย ลูกหนี้สามารถลดภาระหนี้หรือแม้แต่ชนะคดีได้ โดยเฉพาะกรณีดอกเบี้ยเกินอัตรา ขาดอายุความ หรือสัญญาไม่สมบูรณ์ ดังนั้น เมื่อตกเป็นจำเลยคดีเงินกู้ ควรรีบปรึกษาทนายเพื่อวางแนวทางการสู้คดีอย่างเป็นระบบและใช้สิทธิที่กฎหมายเปิดช่องให้ได้อย่างเต็มที่
จัดทำโดย....ทนายตรินัยน์ นบ, เนติบัณฑิตไทย